tag:blogger.com,1999:blog-26651548797155980122024-02-20T15:29:58.322+07:00เต้ย ครูช่างช่างซ่อมรถยนต์ ให้เช่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รับซ่อมเครื่องยนต์ รถยนต์ทั่วไป ราคาน้ำมัน ข้อมูล ทางการศึกษา แผนการสอนเครื่องกลและบริการข้อมูลทั่วไปสำหรับผู้สนใจUnknownnoreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-51518254691430039502008-09-06T12:46:00.002+07:002009-02-14T13:18:16.924+07:00ประเภทของเครื่องยนต์จำแนกโครงสร้างของเครื่องยนต์แบ่งได้ดังนี้<br />การจํ าแนกชิ้นสวนของเครื่องยนต จํ าแนกออกไดเปน 2 ประเภทใหญ ๆ คือ<br />1. ชิ้นส่วนที่อยู่กับที่ ( Stationary parts )<br />1.1 เสื้อสูบ ( Cylinder block )<br />1.2 ฝาสูบ ( Cylinder head )<br />1.3 ปะเก็นฝาสูบ (Cylinder head gasket )<br />1.4 อ่างน้ำมันเครื่อง ( Oil pan )<br />2. ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ ( Moving parts )<br />2.1 ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่กลับไปกลับมา ( Reciprocating motion )<br />ลูกสูบ ( Piston )<br />ก้านสูบ ( Connecting rod )<br />ลิ้นและกลไกของลิ้น ( Valve and valve mechanics )<br />2.2 ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ด้วยการหมุน ( Rotary motion )<br />เพลาข้อเหวี่ยง ( Crankshaft )<br />เพลาลูกเบี้ยว ( Camshaft )<br />ล้อช่วยแรง ( Fly wheel )<br />เครื่องยนต์แบ่งตามกลวัตต์ได้ 2 อย่าง คือ<br />1 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ<br />2 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ<br />เครื่องยนต์แบ่งตามการวางกระบอกสูบ<br />1. แบบเรียงแถว<br />2. แบบวี<br />3. แบบนอน<br />4. แบบสูบดาว<br />เครื่องยนต์แบ่งตามน้ำมันเชื้อเพลิง<br />1. น้ำมันเบนซิล<br />2.น้ำมันดีเซล<br />เครื่องยนต์แบ่งตามลำดับการจุดระเบิด<br />*<br />4 สูบ<br />1 - 3 - 4 - 2 ของรถยนต์ส่วนใหญ่ที่มีใช้ หรือ 1 - 2 - 4 - 3 ของเครื่องยนต์ ford<br />*<br />6 สูบ<br />1 - 5 - 3 - 6 - 2 - 4 หรือ 1 - 6 - 5 - 4 - 3 - 2<br />เครื่องยนต์สามารถแบ่งตามลักษณะอื่น ๆได้อีกมากมาย<br />สักษณะการวางเพลาลูกเบี้ยว<br />1. เพลาลูกเบี้ยวอยู่ในเสื้อสูบ<br />OHV<br />( Overhear Valve )<br />เพลาลูกเบี้ยวอยู่ในเสื้อสูบ มีลูกกระทุ้ง,ก้านกระทุ้ง,กระเดื่องเป็นกลไกขับลิ้น<br />ข้อดี มีความแข็งแรงและทำการบริการง่าย<br />2. เพลาลูกเบี้ยวอยู่บนฝาสูบ<br />OHC<br />( Overhear Camshaft )<br />หรือ<br />SOHC<br />( Single Overhear Camshaft ) มีเพลาลูกเบี้ยววางเดี่ยวบน<br />ฝาสูบระบบนี้ติดตั้งเพลาลูกเบี้ยวไว้บนฝาสูบ ถูกขับโดยสายพานไทมิ่งหรือแบบโซ่ไทมิ่ง<br />3. เพลาลูกเบี้ยวคู่อยู่บนฝาสูบ<br />DOHC<br />( Double Overhear Camshaft )<br />ระบบนี้ติดตั้งเพลาลูกเบี้ยวไว้บนฝาสูบ 2 เพลา ถูกขับโดยสายพาน<br />ไทมิ่งบางครั้งเรียกว่า เครื่องยนต์ทวินแคมUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-12008177099199487192008-09-06T12:44:00.000+07:002008-09-06T12:45:41.758+07:00เทอร์โบ<span style="color:#6633ff;"><span style="font-size:180%;">เทอร์โบ</span><br /></span>เทอร์โบชาร์จใช้ประโยชน์จากไอเสียของเครื่องยนต์ เป็นการเพิ่มอากาศเข้ากับเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มกำลังให้แก่เครื่องยนต์<br />หรือเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เครื่องยนต์<br />หลักการทำงาน<br />เทอร์โบจะมีหอยโข่ง 2 ซีก คือด้านไอดีและไอเสีย และภายในจะมีใบพัดทั้งสองซีกเมื่อไอเสียที่ออกจากเครื่องยนต์ผ่าน<br />ท่อร่วมไอเสียจะเข้ามาที่เทอร์โบทางซีกท่อไอเสียทำให้ใบพัดหมุนและเมื่อใบพัดหมุนจะทำให้ใบพัดทางด้านไอดีหมุนไปด้วย<br />เพราะใบพัดไอดีและไอเสียเป็นแกนใบพัดแกนเดียวกันดังนั้นเมื่อใบพัดด้านไอดีหมุนทำให้อากาศเข้ากระปอกสูบมากขึ้นและ<br />น้ำมันฉีดมากขึ้นทำให้กำลังม้าเครื่องยนต์มากขึ้น จึงเป็นการเพิ่มกำลังให้แก่เครื่องยนต์<br />ตัวเทอร์โบแบ่งออกเป็น2ส่วนด้านใบพัดไอดีแและใบพัดไอเสียใบพัดไอเสียถูกไอเสียที่ออกจากท่อไอเสียไหลและรีดใบ<br />พัดหมุนด้วยความเร็วสูงกว่า 10,000 รอบต่อนาทีเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบธรรมดา เครื่องยนต์แบบเทอร์โบจะให้กำลังดีกว่า<br />และจะทำให้การสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยลง<br />1.<br />ตัวควบคุมลิ้นระบายไอเสียเกิน<br />จะทำงานเมื่อแรงดันไอดีมากเกิน หรือสูงกว่าที่กำหนดไว้ จะมีลิ้นระบายไอเสียเปิดทำให้ไอเสียระบายออกไป ทำให้<br />กำลังดันด้านไอดีลดลง เป็นการควบคุมไอดีไม่ให้สูงเกิน<br />2.<br />การหล่อลื่นแกนเทอร์โบ<br />น้ำมันหล่อลื่นที่บุชของเพลากังหัน โดยน้ำมันเครื่องจะไหลผ่านมาทางเสื้อสูบของเครื่องยนต์ และจะไหลกับเข้า<br />เครื่องยนต์ดังเดิมUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-86686339861464645422008-09-06T12:42:00.000+07:002008-09-06T12:43:31.442+07:00หัวเทียน<span style="font-family:verdana;"></span><br /><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:180%;color:#ff0000;">หัวเทียน<br /></span>หัวเทียน (spark plug) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญชิ้นหนึ่งของเครื่องยนต์ หัวเทียนทำหน้าที่จุดประกายไฟทำให้ไอดีเกิดการ<br />เผาไหม้ หัวเทียนที่อยู่ในสภาพดี และการเลือกใช้หัวเทียนที่ถูกต้องกับสภาพของการใช้งานก็จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ทำงาน<br />ได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนประกอบต่าง ๆ ของหัวเทียนมีดังนี้<br />1. เครื่องกั้นการรั่วของกระแสไฟฟ้า (leakage-current barrier)<br />2. ขั้วหัวเทียน (terminal stud)<br />3. ฉนวนส่วนบน (pyranite insulator) ทำจากอะลูมิน่าหรืออะลูมิเนียมออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การนำ<br />ความร้อนได้ดี ความแข็งแรงสูง ทนทานต่อความร้อน และทนต่อการกัดกร่อน<br />4. ส่วนโปร่งอันเกิดจากการอัดโค้งปิดหน้า (heat shrunk fitting zone) รอยอัด และการทำให้ปลอกเหล็กตัวยึดแน่น<br />หลังจากอบร้อนแล้ว<br />5. ซีลพิเศษ (special seal) เป็นฉนวนพิเศษป้องกันการรั่วของก๊าซและเป็นตัวนำไฟฟ้าแรงสูงได้<br />6. ปะเก็น (gasket) เป็นตัวป้องกันการรั่วไหลของก๊าซที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง<br />7. เกลียว (thread) ความยาวของเกลียวจะเป็นไปตามขนาดที่กำหนดในมาตรฐานอุตสาหกรรมสากล<br />8. ขั้วแกนกลาง (center electrode) ทำจากโลหะพิเศษที่ทนทานต่อการกัดกร่อนของเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ และยังสามารถ<br />นำกระแสได้ดี<br />9. เขี้ยวดิน (ground electrode)<br />10. ฉนวนหุ้มแกนกลาง (insulator nose) เป็นส่วนกำหนดช่วงความร้อนของหัวเทียน (เบอร์หัวเทียน)<br />11. ช่องว่างระหว่างปลายล่างฉนวนกับเปลือกโลหะ (scavenging area) เป็นบริเวณที่สะสมคราบเขม่า ช่องนี้จะมีความ<br />กว้างหรือแคบจะส่งผลถึงอุณหภูมิของหัวเทียน เพราะก๊าซจะหมุนเวียนถ่ายเทได้ปริมาณต่างกัน ในช่องนี้<br />12. แหวนกันการรั่วด้านใน (internal seal)<br />13. ปลอกหรือเปลือกหัวเทียน (spark plug shell)<br />14. แหวนลูกฟูก (crimping ring)<br />15. ขั้วต่อสายไฟ (terminal nut)<br /> คุณสมบัติของหัวเทียน<br />หัวเทียนที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้<br />1. ต้องรับความดันได้สูง 50 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (700 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)<br />2. ต้องทนอุณหภูมิได้สูง 2,500 องศาเซลเซียส (4,500 องศาฟาเรนไฮต์)<br />3. ต้องสามารถทนทานต่อแรงเคลื่อนไฟฟ้าสูง ๆ ได้<br />4. ต้องสามารถทนต่อการสั่นสะเทือนจากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ได้ดี<br />5. ต้องสามารถปรับสภาพให้รับกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความดันได้เป็นอย่างดี<br />6. ต้องทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี<br />7. ต้องมีการจุดประกายไฟที่แน่นอนในทุกสภาวะของการทำงานของเครื่องยนต์<br />8. ต้องป้องกันการรั่วไหลภายใต้ความกดดันสูง ๆ ได้<br />9. ต้องให้ค่าความร้อนที่ถูกต้อง<br />10. ต้องมีอายุการใช้งานยาวนาน<br />การผลิตหัวเทียนมีรายละเอียดดังนี้<br />1. ฉนวนกระเบื้อง (insulator) ทำจากสารอะลูมิน่าบริสุทธิ์ ซึ่งมีความทนต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และ มีความทนทาน<br />ต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกระทันหัน ส่วนประกอบส่วนใหญ่คืออะลูมิน่า ขึ้นรูปแล้วเผา ที่อุณหภูมิประมาณ 1,700<br />องศาเซลเซียส แล้วประทับเครื่องหมายการค้าและเบอร์ อาบมันแล้วอบที่อุณหภูมิประมาณ 900 องศาเซลเซียส<br />2. เปลือกโลหะ (metal shell) ใช้กรรมวิธีอัดขึ้นรูปแล้วกลึงแต่งให้เรียบร้อย จากนั้นเชื่อมขั้วดินเข้าตามตำแหน่งแล้ว<br />กลึงเกลียวก่อนที่จะนำไปชุบเคลือบผิว<br />3. ขั้ว (electrode) ปัจจุบันนี้จะทำจากโลหะผสมนิกเกิลกับโครเมียม แมงกานีส ซิลิคอนและสารอื่น ๆ ขั้วแกนกลาง<br />ทำจากโลหะท่อกลมเชื่อมต่อกับปลายแกนทองแดงหรือทองคำขาว (แพลทินัม) ซึ่งสามารถจุดประกายไฟได้ดี แม้แรง<br />เคลื่อนไฟฟ้าจะคงที่ก็ตาม<br />หัวเทียนทองคำขาว<br />หัวเทียนทองคำขาว (platinum spark plug) เป็นหัวเทียนที่แกนกลางทำจากโลหะทองคำขาวที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.99<br />เปอร์เซ็นต์ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.3 ถึง 1.1 มิลลิเมตร (เล็กกว่าหัวเทียนแบบธรรมดา) มีจุดหลอมละลายสูงถึง<br />1,769 องศาเซลเซียส และมีคุณสมบัติพิเศษทนทานต่อการผุกร่อนที่มากระทบทั้งทางเคมีและทางไฟฟ้า และทนทานต่อ<br />การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูง-ต่ำอย่างฉับพลันได้ดี<br />จากการทดสอบรูปลักษณ์ต่าง ๆ ของแกนกลางของหัวเทียนพบว่าแกนกลางของหัวเทียนที่มีลักษณะ กลมมนจะเกิด<br />ประกายไฟได้ยาก ขณะที่แกนกลางของหัวเทียนเป็นรูปทรงกระบอกหรือปลายแหลมจะเกิดประกายไฟได้ง่าย<br /> มีการออกแบบหัวเทียนและโครงสร้างภายในใหม่โดยใช้แกนกลางเป็นโลหะทองคำขาว ซึ่งเป็นโลหะที่เป็นตัวนำ<br />ทางไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง (หัวเทียนแบบธรรมดา) และปลายของแกนกลางจะแหลม<br />ประสิทธิภาพของหัวเทียนทองคำขาวที่ดีกว่าหัวเทียนแบบธรรมดาคือ<br />1. ขยายช่วงความร้อนได้กว้างมากกว่า<br />2. ทำให้หัวเทียนร้อนถึงอุณหภูมิทำงานได้เร็วกว่า<br />3. การที่ร้อนเร็วกว่าและร้อนสูงกว่า ทำให้ฉนวนและปลายหัวเทียนไม่มีเขม่าเกาะ<br />4. เมื่อไม่มีเขม่าเกาะที่ปลายหัวเทียน การจุดระเบิดจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น<br />5. เมื่อใช้ความเร็วสูงหัวเทียนจะไม่ร้อนเกินไปเพราะมีการออกแบบส่วนต่าง ๆ สัมพันธ์กันอย่างดี<br />6. มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 100,000 กิโลกมตร (60,000 ไมล์) โดยไม่ต้องถอดหัวเทียนออกมา ทำความสะอาด<br />และปรับตั้งระยะห่างเขี้ยวหัวเทียน<br />อุณหภูมิของหัวเทียน<br />หัวเทียนในปัจจุบันจะมีขีดความร้อน (heat range) ต่าง ๆ กันคือ<br />1. หัวเทียนร้อน คือ หัวเทียนที่มีระยะทางระบายความร้อนจากเขี้ยวหัวเทียนถึงปลายล่างฉนวนยาว ทำให้ระยะเวลา<br />ในการระบายความร้อนนาน ความร้อนจึงสะสมอยู่ในตัวได้มาก ใช้สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานความเร็วต่ำหรือระยะเวลา<br />ในการทำงานช่วงสั้น ๆ เครื่องยนต์จึงร้อนถึงอุณหภูมิทำงานเร็ว<br />2. หัวเทียนมาตรฐาน คือ หัวเทียนที่มีขีดความร้อนปานกลาง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยความเร็วปานกลาง<br />3. หัวเทียนเย็น คือ หัวเทียนที่มีระยะทางระบายความร้อนจากเขี้ยวหัวเทียนถึงปลายล่างฉนวนสั้น ทำให้ระยะทาง<br />ในการระบายความร้อนน้อย ความร้อนจึงระบายได้เร็ว ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนจนเกินไป ใช้สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงาน<br />ด้วยความเร็วสูงหรือใช้วิ่งทางไกล<br />หมายเหตุ หัวเทียนร้อนหรือหัวเทียนเย็นไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของเกลียว ขึ้นอยู่กับระยะทางในการระบายความร้อน<br />การตั้งระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียน<br />ระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียนต้องตั้งตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต (ปกติจะถูกตั้งมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว) โดย<br />ทั่วไปค่าระยะห่างมาตรฐานจะมีค่าประมาณ 0.6 ถึง 0.8 มิลลิเมตร (0.024 ถึง 0.31 นิ้ว) การตั้งเขี้ยว หัวเทียนต้องระวัง<br />ขั้วแกนกลางที่เป็นกระเบื้องหุ้มอยู่ อย่าให้กระเบื้องแตกเสียหายได้ การวัดระยะห่างเขี้ยวหัวเทียนให้ถูกต้องจริง ๆ ต้องใช้<br />ฟิลเลอร์เกจชนิดลวดกลม (round wire gauge) ระยะห่างเขี้ยวหัวเทียนที่ถูกต้องจะทำให้ ไฟแรงเคลื่อนสูงสามารถกระโดด<br />ได้ดี เครื่องยนต์ก็จะติดง่ายและมีกำลังสูง ได้แสดงระยะห่างของเขี้ยว หัวเทียนที่ถูกต้อง<br />การใส่หัวเทียน<br />การใส่หัวเทียนกับเครื่องยนต์ ครั้งแรกให้หมุนเข้าด้วยมือก่อน เพื่อป้องกันการปีนเกลียว เมื่อหมุนเข้า จนแน่นแล้ว<br />จึงใช้ประแจขันให้แน่นอีกครั้ง และถ้าใช้ประแจปอนด์ขันด้วยค่าแรงบิดที่บริษัทผู้ผลิตรถรุ่นนั้น ๆ กำหนดไว้ก็จะดียิ่งขึ้น<br />เพราะว่าถ้าขันด้วยแรงบิดน้อยไปจะทำให้กำลังอัดรั่วออกมาได้ แต่ถ้าขันมากเกินไปก็จะทำให้ฝาสูบเสียหายได้<br />การเลือกใช้หัวเทียนที่ถูกต้อง<br />1. เลือกใช้ขนาดความยาวเกลียวให้ถูกต้องกับฝาสูบ ไม่ยาวไปและไม่สั้นไป ถ้าหัวเทียนยาวไปจะทำให้ มีเขม่าจับที่<br />เกลียวหัวเทียน มีผลทำให้ถอดหัวเทียนยากและเขม่าจะทำให้หัวเทียนร้อนจัด ถ้าหัวเทียนสั้นไปจะทำให้มีเขม่าจับที่เกลียว<br />ฝาสูบและเมื่อใช้หัวเทียนที่มีความยาวถูกต้องก็จะทำให้ขันเข้าไปยากและกำลังอัดก็จะน้อยลง<br />2. เลือกใช้เบอร์หัวเทียนให้ถูกต้องกับสภาพของการขับขี่หรือตามคู่มือที่บริษัทผู้ผลิตรถได้กำหนด<br />การสังเกตสีและลักษณะของหัวเทียน<br />การสังเกตสีและลักษณะของหัวเทียน ทำได้ดังนี้<br />1. ถ้าหัวเทียนมีสภาพสีดำแห้ง และสามารถเช็ดออกได้ง่าย แสดงว่าส่วนผสมหนา ให้ทำการปรับซ่อมคาร์บูเรเตอร์ใหม่<br />2. ถ้าหัวเทียนมีสภาพน้ำมันเครื่องเปียก แสดงว่าลูกสูบ กระบอกสูบ หรือแหวนลูกสูบสึกหรอ ให้ทำการตรวจเช็ก<br />เครื่องหรือซ่อมใหญ่<br />3. ถ้าหัวเทียนมีสภาพแห้ง มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ แสดงว่าการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์เป็นปกติ<br />4. ถ้าหัวเทียนมีสภาพไหม้และกร่อน แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานที่อุณหภูมิสูงเกินไป อาจใช้หัวเทียน ผิดเบอร์คือ<br />ใช้หัวเทียนร้อนเกินไป หรืออาจจะเกิดจากการชิงจุดระเบิด (pri ignition) อันเนื่องมาจากเครื่องยนต์ร้อนจัด<br />5. ถ้าหัวเทียนมีสภาพสีขาวจับหรือสีเหลืองจับ แสดงว่าไฟอ่อน แก้ไขโดยการตั้งไฟจุดระเบิดให้แก่ขึ้น และเปลี่ยน<br />หัวเทียนให้เป็นหัวเทียนที่ร้อนขึ้น<br />สาเหตุข้อขัดข้องของหัวเทียน<br />1. การสึกหรอของเขี้ยว<br />2. มีเขม่าหรือน้ำมันเครื่องจับมากเกินไป<br />3. ฉนวนที่หุ้มแตก<br />4. หัวเทียนหมดอายุการใช้งาน ถ้าหัวเทียนหมดอายุแล้วแต่เรายังใช้อยู่ จะทำให้เกิดผลเสียคือทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน<br />เชื้อเพลิง ทำให้ระบบไฟจุดระเบิดบกพร่อง และการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดก๊าซพิษ เพิ่มมากขึ้นในอากาศ<br />สาเหตุที่ทำให้มีคราบน้ำมันและเขม่าจับที่หัวเทียน คือ<br />1. ส่วนผสมหนา<br />5. ใช้หัวเทียนเย็นเกินไป<br />2. โช้กค้าง<br />6. ระบบไฟจุดระเบิดบกพร่อง<br />3. ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำเป็นเวลานาน ๆ<br />7. เครื่องยนต์ไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์<br />4. ตั้งไฟจุดระเบิดอ่อนไป<br />สาเหตุที่ทำให้หัวเทียนร้อนจัด คือ<br />1. ตั้งไฟจุดระเบิดแก่เกินไป<br />4. ระบบหล่อลื่นและหล่อเย็นบกพร่อง<br />7. ใช้น้ำมันออกเทนต่ำเกินไป<br />2. ปรับส่วนผสมบางไป<br />5. เกิดเขม่าในห้องเผาไหม้มาก<br />8. บรรทุกหนักเป็นเวลานาน ๆ<br />3. ใช้หัวเทียนร้อนไป<br />6. ขันหัวเทียนไม่แน่นหรือไม่มีประเก็น<br />โค้ดของหัวเทียน<br />โค้ดของหัวเทียนจะเป็นตัวที่บอกให้เราได้รู้ว่าหัวเทียนนั้น ๆ เป็นหัวเทียนขนาดเท่าไร เป็นหัวเทียนร้อนหรือหัวเทียน<br />เย็น และเป็นหัวเทียนโครงสร้างแบบใด ซึ่งโค้ดของหัวเทียนทุกบริษัทจะถูกกำหนดเป็นมาตรฐานสากล เราสามารถที่จะใช้<br />ยี่ห้ออะไรก็ได้ใส่กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยการเปรียบเทียบเบอร์โค้ดของหัวเทียน<br />S - แกนกลางเป็นทองแดง<br />M - ชนิดแกนสั้น<br />C - ชนิดใช้กับเครื่องยนต์ความเร็วสูง<br />A - แบบ 2 เขี้ยว ใช้กับเครื่องยนต์โรตารี<br />N - ใช้กับรถแข่งมีเขี้ยวตัวงอเป็นนิกเกล<br />R - ชนิดมีรีซิสเตอร์ที่แกนกลางของหัวเทียนUnknownnoreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-38336987124701481182008-09-06T12:35:00.001+07:002008-09-06T12:38:56.536+07:00การทำงานของเครื่องยนต์หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน<br />1. หลักการทํ างานของเครื่องยนต 4 จังหวะ<br />เครื่องยนต 4 จังหวะ หมายถึง หลักการทํ างานของเครื่องยนต โดยที่เพลาขอเหวี่ยงจะหมุนครบ 2 รอบ การทำงาน<br />หรือ หมุนเปนมุมรวม 720 องศา และไดกํ าลังงาน 1 ครั้ง ซึ่งลูกสูบจะเลื่อนขึ้น 2 ครั้ง และเลื่อนลง 2 ครั้ง ถือเปนการ<br />ทํ างานครบ 1 กลวัตร<br />( Suction stroke )<br />( Compression stroke )<br />(Expansion Stroke)<br />( Exhaust Stroke )<br />Pict<br />Pict<br />Pict<br />Pict<br />1.จังหวะดูด (Suction Stroke)<br />ลูกสูบเคลื่อนที่ลง ลิ้นไอดีเปิด ลิ้นไอเสียปิด ดูดให้ไอดีไหลเข้ากระบอกสูบโดยมีอากาศผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง<br />แต่เครื่องยนต์ดีเซลดูดอากาศผ่านหม้อกรองอากาศเข้าไนกระบอกสูบอย่างเดียว<br />2. จังหวะอัด (Compression Stroke)<br />ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น ลิ้นไอดีและลิ้นไอเสียปิดทั้งคู่<br />3. จังหวะระเบิด (Expansion Stroke)<br />ลูกสูบเคลื่อนที่ใกล้ศูนย์ตายบน เครื่องยนต์เบนซินหัวเทียนจุดประกายไฟเกิดการเผาไหม้ ดันให้ลูกสูบเคลื่อนที่ลงลิ้น<br />ทั้งคู่ยังอยู่ทั้งคู่แต่เครื่องยนต์ดีเซลหัวฉีดจะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าในกระบอกสูบเกิดการเผาไหม้ไม่มีหัวเทียน<br />4. จังหวะคาย ( Exhaust Stroke )<br />ลูกสูบเคลื่อนด้านบนลงสู่ด้านล่างลิ้นไอเสียเปิดลิ้นไอดีปิดและเริ่มต้นจังหวะการทำงานใหม่โดยสลับทุกสูบกันทำงาน<br />สรุป<br />การทำงาน 1 กลวัตรมี4จังหวะคือ จังหวะดูด จังหวะอัด จังหวะระเบิดหรือจังหวะกํ าลัง และจังหวะคายเพลาขอเหวี่ยง<br />จะหมุน 2 รอบ ( 720 องศา ) ลูกสูบจะเลื่อนขึ้น 2 ครั้ง ในจังหวะอัดและจังหวะคายลูกสูบจะ เลื่อนลง 2 ครั้งในจังหวะดูด<br />และจังหวะระเบิด ใน 1 กลวัตร ลูกสูบจะเลื่อนขึ้น – ลง รวม 4 ครั้ง ลิ้นไอดี ลิ้นไอเสีย และหัวฉีดจะทํ างานอยางละ 1 ครั้งUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-13618813204138011842007-12-09T13:22:00.000+07:002007-12-16T13:01:23.959+07:00โครงการทางด้านวิศวกรรมแก๊สโซฮอล์จากพืชของไทยแก๊สโซฮอล์<br />จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br />ไปที่: <a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C#column-one">ป้ายบอกทาง</a>, <a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C#searchInput">ค้นหา</a><br /><a class="image" title="Info non-talk.png" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E:Info_non-talk.png"></a><br /> ลิงก์สีฟ้าอ่อน ที่แทรกในบทความนี้ ผู้เขียนใส่ไว้เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ร่วมเขียนหรือผู้ร่วมแก้ไขบทความ ให้โยงข้ามไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องในภาษาอื่นได้ง่ายเพื่อการตรวจสอบ เนื่องจากชื่อหรือศัพท์เทคนิคนี้ยังไม่มีคำแปลภาษาไทยที่เป็นที่แพร่หลาย หรือมีแล้วแต่แปลได้หลายความหมาย เมื่อบทความสมบูรณ์หรือเมื่อหมดความจำเป็นแล้ว ลิงก์สีฟ้าอ่อนข้ามภาษานี้จะถูกตัดออกหรือถูกเปลี่ยนเป็นข้อความภาษาอื่นในวงเล็บที่ไม่มีลิงก์ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานวิกิพีเดีย<br />น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) หรือที่นิยมเรียกว่า E10 คือ<a class="new" title="น้ำมันเชื้อเพลิง" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87&action=edit">น้ำมันเชื้อเพลิง</a>สำหรับรถยนต์ ที่เกิดจากการผสมระหว่าง น้ำมันเบนซิน 90% กับ แอลกอฮอล์ 10% (ได้แก่ <a class="new" title="เอทานอล" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A5&action=edit">เอทานอล</a>) ในภาษาอังกฤษไม่เรียกน้ำมันเชื้อเพลิงว่า เบนซิน แต่จะเรียกว่า แก๊สโซลีน (Gasoline) ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำศัพท์ว่า แก๊สโซฮอล์ นั่นคือ Gaso + hol ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกทดแทนน้ำมันเบนซิน น้ำมันผสมชนิดนี้ มีใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก ข้อดีของแก๊สโซฮอล์คือ การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากโครงสร้างทางเคมีของ<a title="แอลกอฮอล์" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C">แอลกอฮอล์</a> ทำให้ลดมลพิษในอากาศ และในขณะเดียวกันราคาของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ มีราคาต่ำกว่า <a class="new" title="น้ำมันเบนซิน" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%99&action=edit">น้ำมันเบนซิน</a>โดยทั่วไป<br />สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้นมีองค์ประกอบต่างกับน้ำมันเบนซิน คือน้ำมันเบนซินมี เอมทีบีอี (MTBE) เป็นตัวเพิ่มออคเทน ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ใช้เอทานอล เป็นตัวเพิ่มออคเทน เอทานอลให้พลังงานน้อยกว่าเอมทีบีอี (MTBE)โดยต่างกันอยู่ร้อยละ 1.6-1.8 การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้นออกซิเจนที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในเอทานอล จะช่วยให้การเผาไหม้ภายในห้องเครื่องสมบูรณ์ขึ้นอีก และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่จะปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย<br /><a name=".E0.B9.81.E0.B8.81.E0.B9.8A.E0.B8.AA.E0.B9.82.E0.B8.8B.E0.B8.AE.E0.B8.AD.E0.B8.A5.E0.B9.8C.E0.B9.83.E0.B8.99.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B9.80.E0.B8.97.E0.B8.A8.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2"></a><br />[<a title="แก้ไขส่วน: แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C&action=edit&section=1">แก้</a>] แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย<br />แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทยเกิดขึ้นจากพระราชดำริของใน<a title="พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว</a> ในปี <a title="พ.ศ. 2528" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2528">พ.ศ. 2528</a> ที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน โดยได้ทรงศึกษาการนำ<a title="อ้อย" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2">อ้อย</a>มาแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์ และนำแอลกอฮอล์มาผลิตเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์<br />น้ำมันแก๊สโซฮอล์ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศต่างๆ แทบทุกทวีปทั่วโลก เช่น อเมริกา แคนาดา บราซิล เคนยา ปารากวัย สเปน สวีเดน ออสเตรเลีย จีน ฯลฯ เนื่องจากเป็นพลังงานที่มี <a class="external text" title="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=" month="10-2007&date=" group="2&gblog=" href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mrgasohol&month=10-2007&date=08&group=2&gblog=8" rel="nofollow">ผลดี</a>หลายอย่าง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ อ้อย กากน้ำตาล และมันสำปะหลัง ซึ่งล้วนแต่สามารถจัดหาและปลูกขึ้นได้ใหม่ในเวลาอันสั้น<br />ปัจจุบัน <a class="external text" title="http://weblog.manager.co.th/publichome/gasoholic/Default.aspx" href="http://weblog.manager.co.th/publichome/gasoholic/Default.aspx" rel="nofollow">น้ำมันแก๊สโซฮอล์</a>ที่มีจำหน่าย คือ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลไม่เกินร้อยละ 10 สามารถใช้แทนหรือสลับกับน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ได้ตามปกติ ไม่ต้องไปดัดแปลงเครื่องยนต์แต่อย่างใด<br /><a name=".E0.B8.94.E0.B8.B9.E0.B9.80.E0.B8.9E.E0.B8.B4.E0.B9.88.E0.B8.A1"></a><br />[<a title="แก้ไขส่วน: ดูเพิ่ม" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C&action=edit&section=2">แก้</a>] ดูเพิ่ม<br /><a class="extiw" title="en:Alcohol_fuel" href="http://en.wikipedia.org/wiki/Alcohol_fuel">en:Alcohol fuel</a><br /><a class="extiw" title="en:Common_alcohol_fuel_mixtures" href="http://en.wikipedia.org/wiki/Common_alcohol_fuel_mixtures">en:Common alcohol fuel mixtures</a><br /><a title="เกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C">th:เกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์</a><br /><a class="new" title="วิดิโอที่เกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C&action=edit">th:วิดิโอที่เกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์</a><br /><a name=".E0.B9.81.E0.B8.AB.E0.B8.A5.E0.B9.88.E0.B8.87.E0.B8.82.E0.B9.89.E0.B8.AD.E0.B8.A1.E0.B8.B9.E0.B8.A5.E0.B8.AD.E0.B8.B7.E0.B9.88.E0.B8.99"></a><br />[<a title="แก้ไขส่วน: แหล่งข้อมูลอื่น" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C&action=edit&section=3">แก้</a>] แหล่งข้อมูลอื่น<br /><a class="external text" title="http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=" href="http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_fu_gs_01" rel="nofollow">รายละเอียดแก๊สโซฮอล์</a> จากเว็บไซต์ ปตท.<br /><a class="external text" title="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=" month="09-2007&date=" group="2&gblog=" href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mrgasohol&month=09-2007&date=06&group=2&gblog=1" rel="nofollow">น้ำมันแก๊สโซฮอล์</a> จากเวบบล็อก Mr Gasohol<br /><a class="external text" title="http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?aid=" href="http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?aid=18405" rel="nofollow">เอทานอลทดแทนเบนซินได้จริงหรือ</a> จาก วิชาการ.คอม โดย นิภาภรณ์ สีถาการ อยู่ในส่วนพลังงานชีวภาพUnknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-11864462576333432132007-12-07T15:56:00.000+07:002012-10-03T14:31:37.973+07:00ข้อมูลรายละเอียดเครื่องยนต์<br />
เครื่องยนต์ Caterpillar 3208<br />
รุ่น 613 หมายเลขเครื่อง 71 2549 – ขึ้น<br />
รุ่น 613 หมายเลขเครื่อง 38 W1 - ขึ้น<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 8 สูบ ตัวอี<br />
กระบอกสูบ / ระยะชัก 4.5/5.0 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ -<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1-2-7-3-4-5-6-8<br />
รอบเดินเบา -<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 4.500 - 4.50l5 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.003 ± 0.001 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ -<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 1 0.0225 ± 0.0075 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 0.020 ± 0.010 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0030 - 0.0055 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.00l0 - 0.003 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.4995 ± 0.0006 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.003 – 0.0066 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.003 – 0.010 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.014 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.7496 ± 0.0006 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.002 – 0.0055 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 2.5000 ± 0.0005 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.007 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.007 ± 0.003 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลค -<br />
ความโก่งฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี 30 องศา<br />
ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี 0.015 นิ้ว<br />
ไอเสีย 0.025 นิ้ว<br />
ตั้งหัวฉีด 16 ± 1 องศา BTDC.<br />
แรงดันหัวฉีด เบอร์ 9N 3979 2400 – 2600 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เบอร์ 9L 6969 9L 7883 2700 – 2900 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่อง 55 – 85 PSI ค่าต่ำสุดเดินเบา 15 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 92 องศา C.<br />
แรงขันสกรู ต่างๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 30 ± 3 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 120 ± 5 องศา<br />
ข้อก้านสูบ 30 ± 3 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 60 ± 5 องศา<br />
สกรูยึดเฟืองเพลาลูกเบี้ยว 72 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
สกรูยึดเพลาลูกเบี้ยว 35 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 55 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเล่ย์หน้า รุ่น 79V 1408 – UP 460 ± 60 ฟุต-ปอนด์<br />
รุ่น 79V 179V 1407 265 ± 35 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ สกรูหกแฉก สกรู 7 แฉก<br />
ครั้งที่ 1 60 ± 10 ฟุต-ปอนด์ 60 ± 10 ฟุต-ปอนด์<br />
ครั้งที่ 2 95 ± 5 ฟุต-ปอนด์ 110 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
สกรูยึดเฟืองปั๊มหัวฉีด<br />
รุ่นเก่า 80 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
รุ่นใหม่ 110 ± 10 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาราวลิ้น 18 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
TDC. ให้ตั้งวาล์วสูบที่ 1 และสูบที่ 2<br />
NS. ให้ตั้งวาล์วสูบที่ 3 และสูบที่ 7<br />
TDC. ให้ตั้งวาล์วสูบที่ 4 และสูบที่ 5<br />
NS. ให้ตั้งวาล์วสูบที่ 6 และสูบที่ 8<br />
<div style="text-align: justify;">
เครื่องยนต์ Caterpillar 3306</div>
สำหรับเครื่อง D 5 B , D 6 D, D 7 G<br />
หมายเลขเครื่อง D3 N, 44 V, 47 V, 8Z,l0 Z, 13 Z, 62 Z, 49 V<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ / ระยะชัก 4.75 / 6.00 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ -<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 600 – 800 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 4.751 ± 0.0001 นิ้ว ค่าสูงสุด 4.755 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0065 ± 0.001 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.002 – 0.0056 นิ้ว ค่าแตกต่างระหว่างสูบ 0.002 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 4.7445 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนยึดตัวที่ 1 0.0245 ± 0.0075 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนยึดตัวที่ 2 0.0245 ± 0.0075 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.0205 ± 0.0075 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0028 – 0.0046 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0023 – 0.0041 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0015 – 0.0035 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.4992 ± 0.0008 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0030 – 0.0065 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.0025 – 0.0145 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.025 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.9992 ± 0.0008 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0030 – 0.0065 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 2.3110 ± 0.0005 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.006 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.007 ± 0.003 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง -<br />
ความโก่งฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี ± ไอเสีย 30 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี 0.015 นิ้ว<br />
ไอเสีย 0.025 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊ม 13 ± องศา LTDC<br />
D 7 G (SA) 8 ± 1 องศา BTDC<br />
ตั้งหัวฉีด 2400 – 2.600 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำสุดที่ 600 – 800 รอบ/นาที 7 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
ที่ 1500 ขึ้นไป 24 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 90 องศา C<br />
ระยะรุนเทอร์โบชาร์ท 0.0045 ± 0.0015 นิ้ว<br />
ระยะคลอนของเทอร์โบชาร์ท 0.004 – 0.009 นิ้ว<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 30 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 50 องศา<br />
ข้อก้านสูบ 30 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 50 องศา<br />
เฟืองปั๊ม (ใหม่) 110 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
(เก่า) 103 ± 10 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 75 ± 10 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 150 ± 20 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ ครั้งที่ 1 115 ฟุต-ปอนด์<br />
ครั้งที่ 2 185 ± 15 ฟุต-ปอนด์<br />
ขันห้องเผาไหม้ 150 ± 10 ฟุต-ปอนด์<br />
ยึดหัวฉีด 105 ±5 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อรวมไอเสีย 32 ± 5ฟุต-ปอนด์<br />
มูเล่ย์หน้า 239 ± 20 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ Detroit Diesel 71<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2 จังหวะ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 4.25 / 5.0 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 284 ลูกบาศก์นิ้ว<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 – 2<br />
รอบเดินเบา -<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 380 – 430<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 4.2455 – 4.2511 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.004 - 0.0078 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.002 – 0.006 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐานตอนหัวลูกสูบ 4.2190 – 4.222 นิ้ว<br />
ตอนล่าง 4.2133 – 4.2455 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนอัด 0.018 – 0.043 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนน้ำมัน 0.003 – 0.023 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0090 – 0.013 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0075 – 0.011 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3,4 0.0055 – 0.009 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน 0.015 – 0.0055 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.4990 - 3.5000 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0014 – 0.0044 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.004 – 0.014 ค่าสูงสุด 0.018 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านสูบมาตรฐาน 2.7490 – 2.7500 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ก้านสูบ 0.0014 – 0.0044 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกเบี้ยว หน้า-หลัง 1.4970 – 1.4975 นิ้ว<br />
กลาง 1.4980 – 1.4985 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว หน้า-หลัง 0.0025 – 0.0040 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว<br />
กลาง 0.0025 – 0.005 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.009 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.004 - 012 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.018 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.003 – 0.008 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.010 นิ้ว<br />
ความโก่งฝาสูบ ตามแนวยาวสูงสุด 0.008 นิ้ว<br />
ตามแนวขวางสูงสุด 0.004 นิ้ว<br />
มุมวาล์วไอเสีย 50 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ชนิด 1 สูบ มีวาล์ว 2 ตัว<br />
ตั้งโดยใช้ฟิลเลอร์เกจ 0.013 นิ้ว วัดแล้วล๊อก ถ้าถูกต้อง เอา 0.011 ผ่านได้ แต่ 0.013 ผ่านไม่ได้<br />
ชนิด 1 สูบ มีวาล์ว 4 ตัว<br />
ตั้งโดยใช้ฟิลเลอร์เกจ 0.017 นิ้ว วัดแล้วล๊อก ถ้าถูกต้อง เอา 0.015 ผ่านได้ แต่ 0.017 ผ่านไม่ได้<br />
ตั้งหัวฉีด ตั้งโดยวัดค่าความสูงของสปริงตามตาราง<br />
เบอร์หัวฉีด ค่าวัดความสูง (นิ้ว) เบอร์หัวฉีด ค่าวัดความสูง (นิ้ว)<br />
55 E 1.460 HV 55 1.484<br />
S 55 1.460 60 1.484<br />
6 ES 1.460 HV 6 1.484<br />
6 S 8 1.460 N 65 TURBO 1.484<br />
60 E 1.460 N 65 1.484<br />
HE 6 1.460 N 80 TURBO 1.484<br />
S 60 1.460 N 80 1.484<br />
S 65 1.460<br />
70 1.460<br />
HV 7 1.460<br />
S 70 1.460<br />
80 1.460<br />
HV 8 1.460<br />
S 80 1.460<br />
90 1.460<br />
HV 9 1.460<br />
S 90 1.460<br />
71 N 5 1.460<br />
N 55 1.460<br />
N 60 1.460<br />
N 65 1.460<br />
HN 65 1.460<br />
N 70 1.460<br />
N 75 TURBO 1.460<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง (สกรู) 180 – 190 ฟุต-ปอนด์<br />
(นัต) 155 – 185 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 60 – 75 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาปิดกับรุนเพลาลูกเบี้ยว 35 – 40 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาปิดเพลาล่อง 25 – 30 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 45 – 50 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 90 – 100 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 150 – 160 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 290 – 310 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 300 – 325 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 175 – 185 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว 90 – 100 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ HINO DM-100<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 90 / 113 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 4313 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 90 BHP ที่ 3,000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 138 ฟุต/ปอนด์ ที่ 2,000 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 4 – 2 – 6 – 3 – 5<br />
รอบเดินเบา 450 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 3,000 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 280 รอบ/นาที 455-498 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 398 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.5433 นิ้ว (90 มม.)<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0015 - 0.0027 นิ้ว (0.04 - 0.07 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.0011 – 0.0043 นิ้ว(0.03 - 0.11 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 3.5433 นิ้ว ( 90 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.012 - 0.020 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0984 นิ้ว (0.3-0.5 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 - 3 0.012 - 0.020 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0669 นิ้ว (0.3-0.5 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันที่ 4 - 5 0.012 - 0.020 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0472 นิ้ว (0.3-0.5 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0023 – 0.0039 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0157 นิ้ว (0.06 – 0.10 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0015.0.0031 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0157 นิ้ว (0.04 – 0.08 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0023 – 0.0039 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0157 นิ้ว (0.06 – 0.10 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 4 - 5 0.00078 – 0.0023 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0031 นิ้ว (0.02 – 0.06 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.6377 นิ้ว (67.00 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมนตัวที่ 1 และ 7 0.0021 – 0.0043 นิ้ว (0.055 – 0.110 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมนตัวที่ 2 - 6 0.0023 – 0.0039 นิ้ว (0.06 – 0.10 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเมน 0.002 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว (0.05 – 0.2 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.2047 นิ้ว (56.00 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0021 – 0.0043 นิ้ว (0.055 – 0.11 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว<br />
ตัวที่ 1 2.1653 นิ้ว (55.0 มม.)<br />
ตัวที่ 2 2.1259 นิ้ว (54.0 มม.)<br />
ตัวที่ 3 2.1079 นิ้ว (53.5 มม.)<br />
ตัวที่ 4 2.0882 ยิ่ง (53.0 มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0011 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.03 – 0.9 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0027 – 0.0078 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว (0.07 – 0.2 มม.)<br />
ระยะรุนของเฟืองสะพานมาตรฐาน 0.0027 – 0.0078 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว (0.07 – 0.2 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.019 – 0.0043 ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว (0.05 – 0.11 มม.)<br />
ความโก่งฝาสูบ 0 – 0.0015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.04 มม.)<br />
ความโก่งของเสื้อสูบ 0 – 0.0015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0039 นิ้ว (0.04 มม.)<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.0098 นิ้ว (0.25 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 18 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1706 ปอนด์/ตารางนิ้ว (120 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่อง 7 – 42 ปอนด์/ตารางนิ้ว (0.5 – 3.0 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิของน้ำ 82 องศา<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 75.9 – 79.5 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 54.2 – 57.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 144.6 – 155.5 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 28.9 – 32.5 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 97.06 – 101.2 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 217 – 235 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 68.7 – 72.3 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 13.7 – 18.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องลิ้น 47.0 – 50.6 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ HINO EH-100<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 105 / 113 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 5873 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 150 BHP ที่ 3,000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 297 ฟุต/ปอนด์ ที่ 2,000 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 4 – 2 – 6 – 3 – 5<br />
รอบเดินเบา 500 - 550 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 3,000 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 280 รอบ/<br />
นาที 455-512 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 412 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 4.133 นิ้ว (10 5.0 มม.) ดู MARK A ใช้ A<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0083- 0.0039 นิ้ว ดู MARK B ใช้ B<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.001 นิ้ว (0.01 - 0.07 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 4.133 นิ้ว ( 105.0 มม.)<br />
ระยะปากแหวนยึดตัวที่ 1 0.011 – 0.019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0984 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 - 3 0.011- 0.019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0984<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันที่ 4 - 5 0.011 – 0.019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0984<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0023 – 0.0039 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0016 – 0.0031 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0023 – 0.0039 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องน้ำมัน 0.0007 – 0.0023 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมน 2.913 (74.0 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมนตัวที่ 1 และ 7 0.00098 – 0.0034 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว(0.025-0.086<br />
มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมนตัวที่ 2 - 6 0.0018 – 0.0042 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว(0.0045-0.106<br />
มม.)<br />
ระยะรุนข้อเมน 0.0019 – 0.007 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0196 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้าน 2.480 นิ้ว (63.0 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0016 – 0.0032 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว<br />
ตัวที่ 1 2.224 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 2.145 นิ้ว<br />
ตัวที่ 3 2.122 นิ้ว<br />
ตัวที่ 4 2.110 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0011 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0039 – 0 0063 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.118 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เฟืองสะพาน 0.0011 – 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว<br />
ระยะรุนเฟืองสะพาน 0.0011 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011/ นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0019 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว<br />
ความโก่งฝาสูบ 0 – 0.0015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
ความโก่งของเสื้อสูบ 0 – 0.0015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0039 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.0098 นิ้ว (0.25 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 20 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1700 ปอนด์/ตารางนิ้ว (120 กก./ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องมาตรฐาน 14.22 – 71.1 ปอนด์/ตารางนิ้ว (1- 5 กก./ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิของน้ำ 82 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 102-115 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 79 – 94 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 14 – 18 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 145 – 155 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 29 – 32 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 98 – 100 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 217 – 235 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟิองสะพาน 27 – 36 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ (ชโลมน้ำมัน) 123 – 130 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี 19 – 23 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอเสีย 22 – 25 ฟุต-ปอนด์<br />
หัวฉีด 43 – 57 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ HOLDEN KINGWOOD 6-202 HC<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.625 / 3.250 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 202 ลูกบาศก์นิ้ว<br />
กำลังม้าสูงสุด 135 BHP ที่ 4,400 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 194 ฟุต/ปอนด์ ที่ 2,000 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 500 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 5,500 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 150 ± 20 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.6250 – 3.6280 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0005 - 0.0011 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 3.6242 – 3.6272 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 1 0.010 – 0.020 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 0.010 – 0.020 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 3 0.015 – 0.055 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0012 – 0.0027 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0012 – 0.0027 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.4978 – 2.4988 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0008 – 0.0024 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.002 – 0.006 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 1.899 – 1.900 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0008 – 0.0024 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว -<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0015- 0.0035 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.003 – 0.007 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004 – 0.006 นิ้ว<br />
ความโก่งฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว -<br />
ตั้งไฟจุดระเบิด 5 องศา BTDC<br />
ตั้งหัวเทียน 0.035 นิ้ว<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.019 – 0.025 นิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 500 รอบ/นาที 15 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 177 – 202 องศา F<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 61 – 68 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 20 – 26 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 6 – 7 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองเพลาลูกเบี้ยว -<br />
ฟลายวีล 45 – 55 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า -<br />
ฝาสูบ 75 ฟุต-ปอนด์<br />
กระเดื่องวาล์ว 22 – 28 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 25 – 30 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ INTER PERKIN D 354<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.875 / 5.0 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 5801 ซีซี (354 ล.บ. นิ้ว)<br />
กำลังม้าสูงสุด 131 BHP ที่ 2,800 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 282 ฟุต/ปอนด์ ที่ 1,450 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 500 - 550 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 3,100 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 430 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่ 375 รอบ/นาที<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.877 – 3.8785 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.10059 – 0.0074 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 3.8703 – 3.8711 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.015 – 0.019 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 - 3 0.011 – 0.016 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนนํ้ามันที่ 4 - 5 0.011 – 0.016 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1- 3 0.0019 – 0.0039 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 4 - 5 0.0025 – 0.0045 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.9985-2.9990 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0025 – 0.0045 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.002 – 0.014 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.4990 – 2.4995 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 – 0.0030 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว หน้าตัวที่ 1 1.9965 – 1.9975 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 1.9865 – 1.9875 นิ้ว<br />
ตัวที่ 3 1.9776 – 1.9775 นิ้ว<br />
ตัวที่ 4 1.9665 – 1.9675 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว หน้าตัวที่ 1 0.0025 – 0.0045 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 – 4 0.0025 – 0.0055 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.004 – 0.016 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.003 – 0.006 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ 0.003 – 0.006 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.010 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.010 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 0 องศา TDC<br />
แรงดันหัวฉีด 2550 – 2650 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 10 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 2800 รอบ/นาที 25 – 50 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 180 องศา F<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 145 – 150 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 65 – 70 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 45 – 50 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 75 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 31 – 36 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 250 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 75 – 80 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอเสีย 41 – 45 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี 31 – 36 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 45 – 50 ฟุต-ปอนด์<br />
กระเดื่องวาล์ว 45 – 50 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ INTER DT 4.66 B<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 4.30 / 5.35 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 7600 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 –5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 700 ± รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 2,500 ± รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 4.3005 - 4.3015 นิ้ว ค่าสูงสุด 4.304 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0045 - 0.0075 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.002 – 0.005 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ -<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.020 – 0.033 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.065 – 0.078 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.010 - 0.028 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.3742 – 3.3755 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0018 – 0.0051 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.006 – 0.012 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.020 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.9977 – 2.9990 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0018 – 0.0051 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 2.2814 – 2.2825นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.003 – 0.0055 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0035 – 0.017 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.003 – 0.007 ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุดตามแนวยาว 0.006 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุดตามแนวขวาง 0.004 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว ไอดี 30 องศา<br />
ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.025 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 16 องศา<br />
แรงดันหัวฉีด 3600 – 3750 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 2900 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบาต่ำสุด 10 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องทำงานต่ำสุด 35 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 82 – 94 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 115 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 130 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 20 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 105 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 110 – 125 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 105 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 75 – 85 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 165 ฟุต-ปอนด์<br />
ไอดี 57 ฟุต-ปอนด์<br />
ไอเสีย 20 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ INTER TD 15 DT 407<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 4.3125 / 4.625 นิ้ว.<br />
ความจุกระบอกสูบ 407 ลูกบาศก์นิ้ว<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 775 ± 25 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 2,400 ± 10 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 125 รอบ/นาที 350 - 425 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ -<br />
เคลียแรนท์กระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0049 - 0.0069 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.003 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ -<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1, 2 0.013 – 0.023 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.050 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.013 – 0.028 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.050 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1, 2 0.003 – 0.0048 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.002 – 0.0035 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.3742 – 3.3755 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0018 – 0.0051 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.007 – 0.0185 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.026 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.998 – 2.999 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0018 – 0.0051 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน -<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.005 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.010 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.003 – 0.012 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี (เย็น) 0.012 – 0.014 นิ้ว<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย (เย็น) 0.024 – 0.026 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 0 BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 2800 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่อง -<br />
อุณหภูมิของน้ำ 174 – 176 องศา F<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 110 – 120 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 100 – 110 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 30 – 35 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 100 – 110 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 90 – 100 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 200 -210 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 130 -140 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 80 – 90 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊มหัวฉีด 70 – 80 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ INTER DT 429<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 4.50 / 4.50 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 429 ลูกบาศก์นิ้ว<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา -<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 235รอบ/นาที 400 - 470 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 4.500 – 4.5008 (L) นิ้ว<br />
4.5008 – 4.5016 (H) นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0042 - 0.0058 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.002 – 0.004 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ -<br />
ระยะปากแหวนอัด 0.013 – 0.023 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.070 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนน้ำมัน 0.013 – 0.028 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.060 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนอัด 0.035 – 0.005 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน 0.002 – 0.0035 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 3.748 – 3.749 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0023 – 0.0056 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.009 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.003 – 0.011 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.024 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.998 – 0.999 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0016 – 0.0049 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว -<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0010 – 0.0055 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.005 – 0.013 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.025 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.002 – 0.010 นิ้ว<br />
ความโก่งฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด -<br />
แรงดันหัวฉีด 2800 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของน้ำ 174 – 176 องศา F<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 225 – 245 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 100 – 110 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 25 – 30 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล (5/8”) 210 – 230 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 400 – 450 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 300 -320 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊มหัวฉีด 100 – 105 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ ISUZU G 161 Z<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 82/75 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 1584 ซีซี.<br />
กำลังม้าสูงสุด 94 PS ที่ 5400 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 103.26 ฟุต-ปอนด์ ที่ 4000 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 – 2<br />
รอบเดินเบา 675 – 725 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 5400 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 180 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 82.00 มม.<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0017 – 0.0025 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 81.945 – 91.955 มม.<br />
ระยะปากแหวน 0.0078 3 0.016 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวน 0.001 – 0.0024 นิ้ว (0.025 – 0.060 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 56.0 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0008 – 0.0025 นิ้ว (0.02 – 0.064 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.002 – 0.009 นิ้ว (0.06 – 0.24 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 49.0 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0008 – 0.003 นิ้ว (0.019 – 0.075 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว -<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว -<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.008 นิ้ว (0.2 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี (เย็น) 0.006 นิ้ว (0.15 มม.)<br />
ไอเสีย (เย็น) 0.10 นิ้ว (0.25 มม.)<br />
ตั้งไฟจุดระเบิดที่ 675 – 725 รอบ/นาที 8 องศา BTDC<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.0l6 – 0.020 นิ้ว (0.4 – 0.5 มม.)<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน 0.027 – 0.031 นิ้ว (0.7 – 0.8 มม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องมาตรฐาน -<br />
อุณหภูมิน้ำ -<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 72.33 ฟุต-ปอนด์ ข้อก้านสูบ 30 – 32 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 65.5 ฟุต-ปอนด์ ฝาสูบ 72 – 33 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ ISUZU C 190<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 80 / 84 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 1951 ซีซี.<br />
กำลังม้าสูงสุด 62 PS ที่ 4400 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 92 ฟุต-ปอนด์ ที่ 2200 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 - 2<br />
รอบเดินเบา 650 – 700 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 440 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 313 – 327 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 86.02 – 86.06 มม. ค่าสูงสุด 86.10 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0048 (0.123 – 0.124 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 – 0.0039 นิ้ว (0 – 0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน เกรด A 85.888 – 85.907 มม.<br />
เกรด C 85.908 – 85.927 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 – 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 – 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.004 – 0.011 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.157 นิ้ว (0.10 – 0.30 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0035 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011 นิ้ว (0.09 – 0.11มม)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001-0.0019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011 นิ้ว (1.03 – 0.05 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0007 – 0.0019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว(0.02-0.05 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 59.932 – 59.92 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.001– 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.029-0.085 มม)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 52.93 – 52.918 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.00l-0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.029-0.085 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน 47.94 – 47.97 มม. ค่าสูงสุด 47.6 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0-0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.0-0.05 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002-0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.05-0.11 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004-0.0067 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 – 0.17 มม.)<br />
ระยะรุนเฟืองสะพาน 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว (0.07 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.002 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.018 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 18 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1707 ปอนด์/ตารางนิ้ว (120 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบาค่าต่ำสุด 7.1 ปอนด์/ตารางนิ้ว (0.5 กก/ตารางบ ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 82 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 122.97 ฟุต-ปอนด์ (17.0 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 61.49 ฟุต-ปอนด์ (8.5 กก-ม.)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 14.47 ฟุต-ปอนด์ (2.0 กก-ม.)<br />
ฟลายวีล 86.80 ฟุต-ปอนด์ (12.0 กก-ม.)<br />
เพลาลูกเบี้ยว 79.57 ฟุต-ปอนด์ (11.0 กก-ม.)<br />
มูเลย์หน้า 137.43 ฟุต-ปอนด์ (19.0 กก-ม.)<br />
ฝาสูบ สกรูเก่า 65.10 ฟุต-ปอนด์ (09.0 กก-ม.)<br />
สกรูใหม่ 57.87 ฟุต-ปอนด์ (8.0 กก-ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว 13.02 ฟุต-ปอนด์ (1.8 กก-ม.)<br />
เฟืองสะพาน 13.75 ฟุต-ปอนด์ (1.9 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ ISUZU C 240<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 86/102 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 2369 ซีซี.<br />
กำลังม้าสูงสุด 74 PS ที่ 3800 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 115.74 ฟุต-ปอนด์ ที่ 2000 รอบ/นาที(16.0 กก.-ม.)<br />
รอบเดินเบา 700 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 440 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 313-327 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 86.02 – 86.06 มม. ค่าสูงสุด 86.10 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0048 นิ้ว (0.123 – 0.124 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 – 0.0039 (0 – 0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 85.927 – 85.888 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว(0.20 – 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 – 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.004 – 0.011 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.10 – 0.30 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0035 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011 นิ้ว (0.09-0.11มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001- 0.0019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011 นิ้ว (0.03 - 0.05 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0007 - 0.0019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว(0.02-0.05 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 69.93 – 69.92 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0007 – 0.0025 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.018-0.065 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 52.93-52.918 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0007 – 0.0025 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.018-0.065 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน 47.94 – 47.97 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0 – 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.0 – 0.05 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 1.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.05 – 0.11 มม)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004 – 0.0067 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 – 0.17 มม.)<br />
ระยะรุนเฟืองสะพาน 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.00.47 นิ้ว (0.07 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.002 นิ้ว (0.05 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.018 นิ้ว (00.45 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 14 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1707 ปอนด์/ตารางนิ้ว (120 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 7.1 ปอนด์/ตารางนิ้ว (0.5 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 82 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 122.97 ฟุต-ปอนด์ (17.0 กก.-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 61.49 ฟุต-ปอนด์ (8.5 กก.-ม.)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 14.47 ฟุต-ปอนด์ (2.0 กก.-ม.)<br />
เฟืองเพลาลูกเบี้ยว 79.57 ฟุต-ปอนด์ (11.0 กก.-ม.)<br />
ฟลายวีล 86.80 ฟุต-ปอนด์ (120 กก.-ม.)<br />
มูเลย์หน้า 137.43 ฟุต-ปอนด์ (19.0 กก.-ม.)<br />
ฝาสูบ สกรูเก่า 65.10 ฟุต-ปอนด์ (9.0 กก.- ม.)<br />
สกรูใหม่ 57.87 ฟุต-ปอนด์ (8.0 กก.- ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว 13.02 ฟุต-ปอนด์ (1.8 กก.- ม.)<br />
เฟืองสะพาน 13.75 ฟุต-ปอนด์ (1.9 กก.- ม.)<br />
เครื่องยนต์ ISUZU 4 BA 1<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 98/92 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 2775 ซีซี.<br />
กำลังม้าสูงสุด 85 PS ที่ 4000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 136.5 ฟุต-ปอนด์ ที่ 2200 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 – 2<br />
รอบเดินเบา 600 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 392 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่ 200 รอบ/นาที<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 98.00 มม. ค่าสูงสุด 98.20 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0057 – 0.0065 นิ้ว (0.145 – 0.16<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.03 – 0.10 มม. (แต่ละสูบต่างไม่เกิน 0.015 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 97.865 – 97.904 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.008 – 0.011 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.2 – 0.3 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.004 – 0.008 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.1 – 0.2 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.2 – 0.4 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0025 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว(0.065-0.090 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001 – 0.0021 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.030 – 0.055 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.001 – 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.030 - 0.070 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 75.913 – 75.925 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.001 – 0.003 นิ้ว (0.025 – 0.076 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.006 – 0.015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0.15 – 0.38 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 63.932 – 63.944 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 – 0.003 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน 56.0 มม. ค่าต่ำสุด 55.6 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.000 – 0.0006 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.002 นิ้ว (0.00 – 0.015 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.0045 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว (0.050 – 0.114 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.008 นิ้ว (0.2 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.016 นิ้ว (0.40 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 12 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1743 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องสูงสุด 58 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ -<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 173.6 ฟุต-ปอนด์ (2.4 0 กก.-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 86.8 ฟุต-ปอนด์ (12.0 กก – ม.)<br />
ฟลายวีล 114.29 ฟุต-ปอนด์ (15.8 กก – ม.)<br />
เพลาลูกเบี้ยว 101.127 ฟุต-ปอนด์ (14.0 กก – ม.)<br />
มูเลย์หน้า 318.27 ฟุต-ปอนด์ (44.0 กก – ม.)<br />
ฝาสูบ สกรูเก่า 83.19 ฟุต-ปอนด์ (11.5 กก – ม.)<br />
สกรูใหม่ 68.71 ฟุต-ปอนด์ (9.5 กก – ม.)<br />
เฟืองสะพาน 38.34 ฟุต-ปอนด์ (5.3 กก – ม.)<br />
เครื่องยนต์ ISUZU C 223<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 - 2<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก รอบเดินเบา 675 – 725 รอบ/นาที<br />
ความจุกระบอกสูบ 2238 ซีซี รอบสูงสุด -<br />
กำลังม้าสูงสุด 73 PS ที่ 4300 รอบสูงสุด<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 440 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 313 – 327 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 87.991 – 88.030 มม. ค่าต่ำสุด 88.09 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0014 – 0.0021 นิ้ว (0.036-0.055 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 – 0.004 นิ้ว (0.0 – 0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 87.995 – 87.965 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 – 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 - 0.40 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.008 – 0.016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.079 นิ้ว (0.20 – 0.40 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.001 - 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว(0.045 - 0.070 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001 - 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.030 - 0.055 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.007 – 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (00.200 – 0.054 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 59.932 – 59.92 มม. ค่าต่ำสุด 59.9 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.001 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.029 - 0.085 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 52.93 – 52.918 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.04 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 48.0 มม. ค่าต่ำสุด 47.6 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0 – 0.002 มม. ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0 – 0.05 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.05 – 0.11 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004 – 0.0066 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.10 – 0.17 มม.)<br />
ระยะรุนเฟืองสะพาน 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.07 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.002 นิ้ว (0.05 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.018 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 10 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1493.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว (105 กก/ตาราง ซม)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบาค่าต่ำสุด 7.1 ปอนด์/ตารางนิ้ว (0.5 กก/ตาราง ซม)<br />
อุณหภูมิน้ำ 82 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 122.97 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 61.49 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 14.47 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 86.80 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองเพลาลูกเบี้ยว 79.57 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 137.43 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ สกรูเก่า 65.10 ฟุต-ปอนด์<br />
สกรูใหม่ 57.87 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว 13.02 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 13.75 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ ISUZU DA 120<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 100/130 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 6126 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 125 PS ที่ 2600 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 286 ฟุต-ปอนด์ 1400 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 4 – 2 – 6 – 3 - 5<br />
รอบเดินเบา 450 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 2600 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดค่าต่ำสุด 284.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.94 นิ้ว (100 มม.)<br />
เคลียแรนท์ระหว่างกระบอกสูบกับลูกสูบ 0.0047 นิ้ว (0.12 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.004 – 0.008 นิ้ว (0.1 – 0.2 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 3.94 นิ้ว (100 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.012 – 0.020 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.118 นิ้ว (0.3 – 0.5 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.0098 – 0.0177 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.25 – 0.45 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.009 – 0.0177 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.039 นิ้ว (0.25 - 0.45 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0028 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว (0.07 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.04 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0016 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.04 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.955 นิ้ว (75 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว (0.075 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเมน 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.11 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.522 นิ้ว (64 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0026 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.065 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน ตัวที่ 1 1.4972 (38 มม.)<br />
ตัวที่ 2-4 1.3790 (35 มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0039 นิ้ว (0.05 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว -<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.006 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.15 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0 – 0.0047 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว (0 – 0.12 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.024 นิ้ว (0.6 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 23 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1422 ปอนด์/ตารางนิ้ว (100 กก/ตารางนิ้ว)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่อง 28 – 57 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ 90 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 137 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 80 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 40 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 100 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 87 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 163 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 362 - 434 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 80 - 90 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว 47 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊ม 40 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ ISUZU 6 BD 1<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 102/118 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 7585 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 550 – 610 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 200 รอบ/นาที 440 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 312 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ เกรด A 102.041 – 102.040 มม.<br />
เกรด C 102.041 – 102.060 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0064 – 0.007 นิ้ว (0.162 – 0.180 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.001 – 0.0039 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน เกรด A 101.830 – 101.849 มม.<br />
เกรด C 101.850 – 101.869 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.098 – 0.0177 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.05 – 0.45 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.0078 – 0.0157 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.2 – 0.4 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.0078 – 0.0157 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.2 – 0.4 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.003 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.085 – 0.11 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001 – 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.035 – 0.055 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.001 – 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.030-0.07 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 79.932 – 79.944 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.00098 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0043 นิ้ว (0.025 – 0.076 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.0059 – 0.0013 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0.15 – 0.33 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 63.942 – 63.944 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 - 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0039 นิ้ว (0.03 – 0.07 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 55.94 – 55.97 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 - 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.03 – 0.09 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0019 – 0.0045 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.05 – 0.114 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0039 – 0.0067 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว(0.10 – 0.17 มม.)<br />
ระยะรุนเฟืองสะพาน 0.002 – 0.l0045 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.058 – 0.115 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0 – 0.05 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย + ไอดี 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.016 นิ้ว (0.40 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 14 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 2631.3 ปอนด์/ตารางนิ้ว (185 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 14.22 ปอนด์/ตารางนิ้ว (1.0 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องสูง 56.89 – 85.34 ปอนด์/ตารางนิ้ว (4.0 – 6.0 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 95 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 173.6 ปอนด์/ตารางนิ้ว(24 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 86.8 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 18.8 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เพลาลูกเบี้ยว 115.74 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
ฟลายวีล 159.13 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
มูเลย์หน้า 434.0 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เฟืองสะพาน 39.8 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
ฝาสูบ 90 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เพลาราวลิ้น 22.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
ท่อร่วม ไอดี + ไอเสีย 18.8 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
การโผล่ของปลอกลูกสูบกว่าเสื้อสูบภายหลังการอัด 0.015 – 0.115 MM.<br />
เครื่องยนต์ ISUZU 10 PB 1<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 115/135 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 14022 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 8 – 7 – 6 – 5 -4 -2 – l10 – 9 -2<br />
รอบเดินเบา 450 – 500 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 398.25 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่ 200 รอบ/นาที ค่าต่ำสุด 298.69 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
(28 กก/ตารางนิ้ว)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 115 – 115.040 มม. ค่าสูงสุด 115.340 มม.<br />
เคลียแรนท์ระหว่างกระบอกสูบกับลูกสูบ 0.007 – 0.0086 นิ้ว (180 – 0.219 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.0039 – 0.0055 นิ้ว ค่าสูงสุด<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 114.801 – 114.840 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.0098 – 0.0177 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.25 - 0.45 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.0098 – 0.0177 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.25 – 0.45 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.0059 – 0.0137 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0039 นิ้ว (0.15 – 0.35 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.003 – 0.0047 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.078 – 0.121 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.001 – 0.0025 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.030 – 0.064 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.007 – 0.0023 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.020 – 0.060 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 96.858 – 96.884 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.002 – 0.005 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว (0.060 – 0l141 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.006 – 0.013 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0.16 – 0.33 มมง)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 77.889 – 77.914 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 – 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0063 นิ้ว (0.040 – 0.111 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1-6 39.950 – 39.975 มม. ค่าต่ำสุด 39.9 มม.<br />
ตัวที่ 7 49.950 – 49.975 มม. ค่าต่ำสุด 49.9 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0009 – 0.009 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0047 นิ้ว (0.0-25 – 0.075 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.00078 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงุด 0.007 นิ้ว (0.02 – 0.09 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเฟืองสะพาน 47.950 – 47.975 มม. ค่าต่ำสุด 47.90 มม.<br />
เคลียแรนท์เฟืองสะพาน 0.0009 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว (0.025 – 0.075 มม. )<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0019 – 0.0078 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.05 – 0.2 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0 – 0.0019 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0 – 0.05 นิ้ว)<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.0157 นิ้ว (0.4 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด เครื่องยนต์หมายเลข 305995 17 องศา BTDC<br />
เครื่องยนต์หมายเลข 305996 20 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 3200 ปอนด์/ตารางนิ้ว (225 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบาสูงกว่า 14 ปอนด์/ตารางนิ้ว (1.0 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องปานกลาง 64 ปอนด์/ตารางนิ้ว (4.5 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 79 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 151.9 ฟุต-ปอนด์ (21.0 กก-ม)<br />
ข้อก้านสูบ 21.7 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 120 องศา (3 กก - ม – 60 ° - 60 °)<br />
ฟลายวีล 36.17 ฟุต-ปอนด์ แล้วขันอีก 90 องศา (5 กก – ม – 45 ° - 45 °)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 28.93 ฟุต-ปอนด์ (4 กก – ม)<br />
เพลาลูกเบี้ยว 108.5 ฟุต-ปอนด์ (15 กก – ม)<br />
ยึดปั๊มน้ำมันเครื่อง 65.1 ฟุต-ปอนด์ (9 กก – ม)<br />
เสื้อฟลายวีล Housing 83.18 ฟุต-ปอนด์ (11.5 กก – ม)<br />
มูเลย์หน้า 36.17 ฟุต-ปอนด์ (5 กก – ม - 45 ° - 45 °)<br />
เฟืองสะพาน 83.18 ฟุต-ปอนด์ (11.5 กก – ม)<br />
ท่อร่วม ไอดี 14 - 47 ฟุต-ปอนด์ (2 กก – ม)<br />
ท่อไอดี 28.93 ฟุต-ปอนด์ (4 กก – ม)<br />
ท่อร่วมไอเสีย 28.93 ฟุต-ปอนด์ (0 กก – ม)<br />
เพลากระเดื่องลิ้น 36.17 ฟุต-ปอนด์ (05 กก – ม)<br />
ฝาสูบ 130 – 140 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ JEEP CJ 6<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.125/4.375 นิ้ว (79.375 – 111.12 มม.)<br />
ความจุกระบอกสูบ 134.4 ลบ.นิ้ว (2199 ซีซี)<br />
กำลังม้าสูงสุด 75 HP ที่ 4000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 114 ฟุต-ปอนด์<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 – 2<br />
รอบเดินเบา 600 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 4000 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 120 – 130 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.125 – 3.127 นิ้ว (79.375 – 79.425 มม.)<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0025 – 0.0045 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 3.1225 – 3.1245 นิ้ว (79.311 – 19.362 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.007 – 0.045 นิ้ว (0.178 – 1.143 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.007 – 0.045 นิ้ว (0.178 – 1.143 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวนํ้ามันที่ 3 0.007 – 0.045 นิ้ว (0.178 – 1.143 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.002 – 0.004 นิ้ว (0.051 – 1.102 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0015 – 0.0035 นิ้ว (0.038 – 0.088 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.001 – 0.0025 นิ้ว (0.0025 – 0.063 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.3331 – 2.3341 นิ้ว (59.286 – 59.261 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0003 – 0.0029 นิ้ว (0.0076 – 0.0736 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.004 – 0.006 นิ้ว (0.102. 0.152 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 1.9375 – 1.9383 นิ้ว (49.2122 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 – 0.0019 นิ้ว (0.025 - 0.0483 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน<br />
ตัวหน้า 2.1860 – 2.1855 นิ้ว (55.518 มม.)<br />
ตัวที่ 2 2.1225 – 2.1215 นิ้ว (53.898 มม.)<br />
ตัวที่ 3 2.0600 – 2.0590 นิ้ว (52.311 มม.)<br />
ตัวหลัง 1.6230 – 1.6225 นิ้ว (41.217 มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.0025 นิ้ว (0.025 – 0.063 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.004 – 0.007 นิ้ว (0.101 – 0.178 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเพลาลูกเบี้ยว 0.000 – 0.002 นิ้ว (0.000 – 0.051 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบสูงสุด 0.010 นิ้ว (0.254 มม.)<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
มุมวาล์ว ไอดี (เย็น) 0.018 นิ้ว (0.461 มม.)<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย (เย็น) 0.016 นิ้ว (0.406 มม.)<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน 0.030 นิ้ว (0.762 มม.)<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.020 นิ้ว (0.508 มม.)<br />
มุมคะเวล 42 องศา<br />
ตั้งไฟ 5 องศา BTDC<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 6 ปอนด์/ตารางนิ้ว (0.4 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 2000 รอบ/นาที 20 ปอนด์/ตารางนิ้ว (1.4 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 74 – 86 องศาเซนติเกรด (165 – 188 องศาฟาเรนไฮด์)<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 65 – 75 ฟุต-ปอนด์ (9.0 – 10.4 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 35 – 45 ฟุต-ปอนด์ (4.8 – 6.2 กก-ม.)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 20 – 26 ฟุต-ปอนด์ (2.8 – 3.6 กก-ม.)<br />
ฟลายวีล 35 – 41 ฟุต-ปอนด์ (4.8 – 6.2 กก-ม.)<br />
เพลาลูกเบี้ยว 30 – 40 ฟุต-ปอนด์ (4.1 – 5.5 กก-ม.)<br />
อ่างน้ำมันเครื่อง 9 – 14 ฟุต-ปอนด์ (1.2 – 0.9 กก-ม.)<br />
มูเลย์หน้า -<br />
ฝาสูบ 60 - 70 ฟุต-ปอนด์ (8.3 – 9.7 กก-ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว 30 – 36 ฟุต-ปอนด์ (4.1 – 5.0 กก-ม.)<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 29 – 35 ฟุต-ปอนด์ (4.0 – 4.8 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ JEEP WAGONEER 6-232<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.750/3.500 นิ้ว (95.25/88.90 มม.)<br />
ความจุกระบอกสูบ 232 ลบ.นิ้ว<br />
กำลังม้าสูงสุด 145 HP ที่ 4400 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 215 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1600 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 - 4<br />
รอบเดินเบา 650 – 700 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 145 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน -<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0009 – 0.0015 นิ้ว (0.0228 – 0.0381 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน -<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.010 – 0.020 นิ้ว (0.254 – 0.508 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.010 – 0.020 นิ้ว (0.254 – 0.508 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวน้ำมันที่ 3 0.015 – 0.055 นิ้ว (0.381 – 1.397 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0015 – 1.0035 นิ้ว (0.0381 – 0.0889 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0015 – 1.0035 นิ้ว (0.0381 – 0.0889 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.000 – 0.005 นิ้ว (0.000 – 0.127 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.4988 – 2.4995 นิ้ว (63.47 – 63.49 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.001 – 0.002 นิ้ว (0.0254 - 0.0508 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.003 – 0.007 นิ้ว (0.0762 – 0.178 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.0948 – 2.0955 นิ้ว (53.20 – 53.22 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 – 0.002 นิ้ว (0.0254 – 0.0508 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน -<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.003 นิ้ว (0.025 – 0.076 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.004 – 0.007 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเพลาลูกเบี้ยว 0.0035 – 0.0055 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี 30 องศา<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย -<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน 0.035 นิ้ว (0.889 มม.)<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.016 นิ้ว (0.401 มม.)<br />
ตั้งไฟ สำหรับจานจ่าย รุ่น 1110340 5 องศา BTDC<br />
ตั้งไฟ สำหรับจานจ่าย รุ่น 1110440 0 องศา BTDC<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องสูงสุด 60 ปอนด์/ตารางนิ้ว (4.22 กก.-ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิของเครื่อง 90 – 94 องศาเซนติเกรด<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนข้อเหวี่ยง 75 – 85 ฟุต-ปอนด์ (10.4 – 11.8 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 27 – 30 ฟุต-ปอนด์ (3.l7 – 4.1 กก-ม.)<br />
สกรูฝาปิดปั๊มน้ำมันเครื่อง 8 – 12 ฟุต-ปอนด์ (1.1 – 1.6 กก-ม.)<br />
สกรูยึดปั๊มน้ำมันเครื่อง 15 – 18 ฟุต-ปอนด์ (2.1 – 2.5 กก-ม.)<br />
ฟลายวีล 100 – 110 ฟุต-ปอนด์ (13.7 – 15.1 กก-ม.)<br />
เพลาลูกเบี้ยว 50 – 55 ฟุต-ปอนด์ (6.9 – 7.6 กก-ม.)<br />
อ่างน้ำมันเครื่อง 10 – 12 ฟุต-ปอนด์ (1.4 – 1.6 กก-ม.)<br />
มูเลย์หน้า 70 – 80 ฟุต-ปอนด์ (9.6 – 11.0 กก-ม.)<br />
ฝาสูบ 80 - 85 ฟุต-ปอนด์ (11.0 – 11.7 กก-ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว 20 – 23 ฟุต-ปอนด์ (2.8 – 3.1 กก-ม.)<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 20 – 25 ฟุต-ปอนด์ (2.8 – 3.4 กก-ม.)<br />
ฝาครอบหน้า 7 – 8 ฟุต-ปอนด์ (0.9 – 1.0 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ JEEP PERKINS 4/182<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.74/4.13 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 2977 ซีซี.<br />
กำลังม้าสูงสุด 85 BHP ที่ 600 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 146 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1800 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 - 2<br />
รอบเดินเบา 600 -650 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 3.741 - 0 3.742 นิ้ว ค่าสูงสุด 3.750 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.003 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 – 0.004 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 3.7388 – 3.7399 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวน 0.016 – 0.024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.002 – 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.002 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน 0.001 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมน 2.9847 – 2.985 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0024 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.005 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเมน 0.006 – 0.015 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้าน 2.4060 – 2.4065 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1 2.044 – 2.045 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 2.034 – 2.035 นิ้ว<br />
ตัวที่ 3 2.024 – 2.025 นิ้ว<br />
ตัวที่ 4 2.014 – 2.015 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.005 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.007 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เฟืองสะพาน 0.0014 – 0.0033 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004 – 0.007 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.012 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบค่าสูงสุด ตามแนวขวาง 0.0 นิ้ว<br />
ตามแนวยาว 0.010 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว ไอดี 45 องศา<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย 30 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.012 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด -<br />
แรงดันหัวฉีด 1920 – 1990 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องมาตรฐาน 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่รอบสูงสุด<br />
อุณหภูมิน้ำ 95 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 85 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 65 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 17 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 50 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 95 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 289 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 90 ฟุต-ปอนด์<br />
ขันหัวฉีด 50 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 23 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊ม 50 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ kOMATSU CUMMINS NT 855<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 139.7/1562.4 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 14010 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 220 HP ที่ 1800 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 760 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1250 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 560 ± 50 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 1950 ± 50 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 398.25 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 139.7 ± 0.013 มม. ค่าสูงสุด 155.6004<br />
0.025 มม. ค่าสูงสุด 155.5496<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ - 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0056 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.003 – 0.006 นิ้ว (0.08 – 0l15 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 139.4 – 0.005 – 0.030 มม. ค่าต่ำสุด 139.27 มม.<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.017 – 0.027 นิ้ว (0.43 – 0.69 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2, 3, 4 0.013 – 0.0228 นิ้ว (0.33 – 0.58 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมัน 0.010 – 0.020 นิ้ว (0.25 – 0.51 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 114 + 0.262 + 0.300 มม. ค่าต่ำสุด 114.22 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0013 – 0.0049 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว (0.035-0.125 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.007 – 0.017 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.022 นิ้ว (0.18 – 0.43 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 79.3 ± 0.035 ± 0.075 มม. ค่าสูงสุด 79.30 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว (0.040 – 0.110 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว 50.7 + 0.024 + 0.049 มม. ค่าต่ำสุด 50.30 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.005 นิ้ว (0.026 – 0.089 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0078 – 0.013 นิ้ว (10.20 – 0.33 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.006 – 0.009 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 30 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี (เย็น) 0.016 นิ้ว (0.41 มม.) (ร้อน) 0.0143 นิ้ว (0.36 มม.)<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย (เย็น) 0.029 นิ้ว (0.74 มม.) (ร้อน) 0.027 นิ้ว (0.69 มม.)<br />
ตั้งหัวฉีด 19 องศา BTDC<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำสุด 28.45 ปอนด์/ตารางนิ้ว (2.0 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิน้ำ 87 + 15 องศา C<br />
ระยะรุนของเทอร์โบ 0.003 – 0.005 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.007 นิ้ว (0.08 – 0.13 มม.)<br />
ระยะคลอนของเทอร์โบ 0.010 – 0.017 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.023 นิ้ว (10.25 – 0.43 มม.)<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมน 305.23 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้าน 152.62 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 156.96 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 195.30 ± 7.23 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 191.69 ± 7.23 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 290 ฟุต-ปอนด์<br />
กระเดื่องวาล์ว 59.31 ± 5 ฟุต-ปอนด์<br />
ยึดหัวฉีด 18 - 20 ฟุต-ปอนด์<br />
Valve Spring<br />
Free Installed Installed Installed<br />
Length Length Load Load Limit<br />
68.20 mm 57.15 mm 70.3 kg 64.9 kg<br />
เครื่องยนต์ LAND ROVER 2 1/4 ลิตร<br />
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.562/3.500 นิ้ว (90.47/88.8 มม.)<br />
ความจุกระบอกสูบ 140 ลบ.นิ้ว (2286 ซีซี)<br />
กำลังม้าสูงสุด 81 PH ที่ 4250 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 124 ฟุต-ปอนด์ ที่ 2500 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 - 2<br />
รอบเดินเบา -<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 145 – 170 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.562 นิ้ว (90.49 มม.)<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0019 – 0.0023 นิ้ว (0.048 – 0l058 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน -<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.015 – 0.020 นิ้ว (0.38 – 0.50 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.015 – 0.020 นิ้ว (0.38 – 0.50 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.015 – 0.020 นิ้ว (0.38 – 0.50 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0018 - 0.0038 นิ้ว (0.046 – 0.097 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0018 – 0.0038 นิ้ว (0.046 – 0.097 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0015 – 0.0035 นิ้ว (0.038 – 0.089 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.5 (- 0.0005) นิ้ว (63.5 ( - 0.012 ) มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.001 – 0.0025 นิ้ว (0.02 – 0.06 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.002 – 0.006 นิ้ว (0.05 – 0.15 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.126 (- 0.001) นิ้ว (53.9 (-0.025) มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 – 0.0025 นิ้ว (0.025 – 0.063 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน 1.842 (-0.001) นิ้ว (26.70 (-0.025) มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.002 นิ้ว (0.02 - 0.05 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0025 – 0.0055 นิ้ว (0.06 – 0.14 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอดี 30 องศา<br />
มุมวาล์ว ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.010 นิ้ว (0.25 มม.)<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน 0.023 – 0.032 นิ้ว<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.014 – 0.016 นิ้ว (0.35 – 0.40 มม.)<br />
ตั้งไฟ 3 องศา BTDC<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 2000 รอบ/นาที 45 – 60 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ -<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนข้อเหวี่ยง 85 ฟุต-ปอนด์ (11.75 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 35 ฟุต-ปอนด์ (4.9 กก-ม.)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว -<br />
ฟลายวีล 60 – 65 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว -<br />
อ่างน้ำมันเครื่อง -<br />
มูเลย์หน้า 150 ฟุต-ปอนด์ (20.5 กก-ม.)<br />
ฝาสูบ 65 ฟุต-ปอนด์ (8.9 กก-ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว สกรู ขนาด ½ นิ้ว 65 ฟุต-ปอนด์ (8.9 กก-ม.)<br />
สกรู ขนาด 5/16 นิ้ว 18 ฟุต-ปอนด์ (2.4 กก-ม.)<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 17 ฟุต-ปอนด์ (2.3 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ MAZDA B 1600<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 78/83 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 1586 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 78 BHP ที่ 6000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 107.69 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3500 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 - 4 – 2<br />
รอบเดินเบา 600 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 6000 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 172 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่ 300 รอบ/นาที<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 78.00 – 78.018 มม.<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.002 – 0.0028 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว (0.057 – 0.072 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 77.945 ± 0.01 มม.<br />
ระยะปากแหวน 0.0078 – 0.016 นิ้ว (0.2 – 0.4 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0013 – 0.0027 นิ้ว (0.035 – 0.070 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0011 – 0.0025 นิ้ว (0.030 – 0.064 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.0012 – 0.0025 นิ้ว (0.032 – 0.064 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 62.94 – 62.955 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0012 – 0.0024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0031 นิ้ว (0.031 -0.061 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.003 – 0.011 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.011 นิ้ว (0.08 – 0.24 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 52.94 – 52.955 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.001 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว (0.027 – 0.077 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1 44.945 มม.<br />
ตัวที่ 2 44.935 มม.<br />
ตัวที่ 3 44.945 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยวตัวที่ 1 และ 3 0.0007–0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว(0.019–0.069 มม)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยวตัวที่ 2 0.0011–0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.006 นิ้ว (0.029–0.079 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0008–0.007 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.20 – 0.18 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบ 0.006 นิ้ว (0.15 มม.)<br />
มุมวาล์ว 45 องศา<br />
ตั้งวาล์วด้านลูกเบี้ยว ไอเสีย + ไอดี 0.009 นิ้ว (0.22 มม.)<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน NGK PP 5 ES 0.027 นิ้ว (0.7 มม.)<br />
ตั้งไฟจุดระเบิด 10 – 14 องศา ที่ 4000 รอบ/นาที<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.020 นิ้ว (0.5 มม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 4.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 3000 รอบ/นาที 59 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ -<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 60 - 65 ฟุต-ปอนด์ (8.4 – 9.0 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 36.17 – 39.78 ฟุต-ปอนด์ (5.0 -5.5 กก-ม.)<br />
ฟลายวีล 112.12 - 118 ฟุต-ปอนด์ (15.5 – 16.3 กก-ม.)<br />
อ่างน้ำมันเครื่อง - ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ (เย็น) 55.69 - 60 ฟุต-ปอนด์ (7. - 8 กก-ม.)<br />
(ร้อน) 68.7 – 72.33 ฟุต-ปอนด์ (9.5 – 10.0 กก-ม.)<br />
ท่อไอดี 13.7 – 18.8 ฟุต-ปอนด์ (1.9 - 2.6 กก-ม.)<br />
ท่อร่วมไอเสีย 11.5 – 16.6 ฟุต-ปอนด์ (0.6 – 2.3 กก-ม.)<br />
มูเล่ย์หน้า 101.27 – 108.5 ฟุต-ปอนด์ (14.0 – 16.0 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ MITSUBISHI MG 400, 6 D 22 และ 6 D 22 T<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 5.1187/15.512 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 11149 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด รุ่น 6 D 22 145 HP ที่ 2000 รอบ/นาที<br />
รุ่น 6 D 22 T 170 HP ที่ 2000 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด รุ่น 6 D 22 484.6 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1400 รอบ/นาที<br />
รุ่น 6 D 22 T 607.6 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1400 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา 450 – 500 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 2100 - 2200 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 200 รอบ/นาที 398 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 284 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 5.1181 – 5.1197 นิ้ว ค่าสูงสุด 5.1279 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ รุ่น 6 D 22 0.0059 – 0.007 นิ้ว<br />
6 D 22 T 0.0062 – 0.0072 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 – 0.0031 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 5.118 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวน 0.016 – 0.024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 รุ่น 6 D 22 0.039 – 0.0075 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 รุ่น 6 D 22 0.002 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน รุ่น 6 D 22 0.0012 – 0.0024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 รุ่น 6 D 22 T 0.0012 – 0.0035 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 รุ่น 6 D 22 T 0.0028 – 0.0039 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน รุ่น 6 D 22 T 0.0012 – 0.0024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมน 3.940 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.003 – 0.0059 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.0035 – 0.0091 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้าน 3.310 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.002 – 0.0054 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1 2.55 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 2.57 นิ้ว<br />
ตัวที่ 3,4 2.58 นิ้ว<br />
ตัวที่ 5,6 2.59 นิ้ว<br />
ตัวที่ 7 2.60 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0012 – 0.0031 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.0087 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.004 – 0.010 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย (เย็น) 0.016 นิ้ว<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 16 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 3128 – 3271 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 21.43 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 7.1 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องสูงสุด 43 – 71 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 28.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ 80 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนข้อเหวี่ยง 275 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 86.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 195 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 72.3 – 86.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 43.4 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 174 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 130 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 130 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องลิ้น 25 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอเสีย 19.5 – 24.6 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี 14.5 ฟุต-ปอนด์<br />
สูบที่ 1 2 3 4 5 6<br />
วาล์ว In Ex In Ex In Ex In Ex In Ex In Ex<br />
สูบที่ 1 TDC 0 0 0 0 0 0<br />
สูบที่ 6 TDC - x x - x x x x<br />
เครื่องยนต์ MITSUBISHI 8 DC 8<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 8 สูบ ตัว V<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 135/130 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 14886 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 290 HP ที่ 2300 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 723 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1400 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 2 – 7 – 3 – 4 – 5 – 6 - 8<br />
รอบเดินเบา 450 - 500 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 2520 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 398 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 284 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 135.0 – 135.04 มม. ค่าสูงสุด 135.25 มม.<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0067 – 0.0074 นิ้ว (0.17-0.19 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.003 – 0.0067 นิ้ว (0.08 – 0.17 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ -<br />
ระยะปากแหวน 0.0157 – 0.0236 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.059 นิ้ว (0.4 – 0.6 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0007 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0.02 – 0.08 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0019 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.05 – 0.08 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0019 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.05 – 0.08 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนน้ำมัน 0.001 – 0.0024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว (0.03 – 0.06 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 99.90 – 99.92 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.002 – 0.0047 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว (0.06 – 0.12 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.0035 – 0.0075 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0.09 – 0.19 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้าน 83.91 – 83.93 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0019 – 0.0043 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1,2 65 มม.<br />
ตัวที่ 3 65.25 มม.<br />
ตัวที่ 4 65.50 มม.<br />
ตัวที่ 5 65.75 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.001 – 0.003 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0098 นิ้ว (0.03 – 0.08 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.004 – 0.0078 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.016 นิ้ว (0.11 – 0.20 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟืองสูงสุด 0.016 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ 0 – 0.0027 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0078 นิ้ว (0-0.07 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี 0.016 นิ้ว (0.4 มม.)<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย 0.024 นิ้ว (0.6 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด 16 องศา BTDC<br />
แรงอัดหัวฉีด 2560 ± 71 ปอนด์/ตารางนิ้ว (180 ± 5 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องเดินเบา 42 – 50 ปอนด์/ตารางนิ้ว (3.0 – 3.5 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิของน้ำ 88 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 274.87 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 166.37 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 195.30 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 43.40 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองสะพาน 86.80 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 130.20 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 209.77 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องลิ้น 26.77 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 21.70 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 19 - 08 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ NISSAN ND 6<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 4.33/4.72 นิ้ว<br />
ความจุกระบอกสูบ 6842 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 140 HP ที่ 2800 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 322 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1400 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 4 – 2 – 6 – 3 – 5<br />
รอบเดินเบา -<br />
รอบสูงสุด -<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 427 ปอนด์/ตารางนิ้ว ที่ 200 รอบ/นาที<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 4.330 – 4.3316 นิ้ว (110.0 มม.)<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0034 – 0.0059 นิ้ว<br />
บ่ากระบอกสูบ 0 - 0.0039 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 4.330 นิ้ว (110.0 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 1 0.0157 – 0.0276 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 0.0118 – 0.0197 นิ้ว<br />
ระยะปากแหวนนํ้ามันตัวที่ 3 0.0118 – 0.0236 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0028 – 0.0043 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0157 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0016 – 0.0031 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0157 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0008 – 0.0024 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมน 3.538 – 3.539 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0016 – 0.0050 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว<br />
ระยะรุนข้อเมน 0.002 – 0.0055 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0197 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้าน 2.751 – 2.752 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0016 – 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว ตัวที่ 1 2.283 นิ้ว<br />
ตัวที่ 2 2.276 นิ้ว<br />
ตัวที่ 3 2.268 นิ้ว<br />
ตัวที่ 4 2.260 นิ้ว<br />
ตัวที่ 5 2.252 นิ้ว<br />
ตัวที่ 6 2.244 นิ้ว<br />
ตัวที่ 7 2.236 นิ้ว<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0008 – 0.004 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.0098 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0197 นิ้ว<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0026 – 0.0053 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ ตามแนวขวาง 0 – 0.0008 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
ความโก่งของฝาสูบ ตามแนวยาว 0 – 0.002 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0059 นิ้ว<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.015 นิ้ว (0.4 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด ที่ 600 รอบ/นาที 13 องศา BTDC<br />
ที่ 2800 รอบ/นาที 25 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 2560 ปอนด์/ตารางนิ้ว (180 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ 1500 รอบ/นาที 62.6ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำสุด 1500 รอบ/นาที 28.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิน้ำ 95 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 173.5 – 179.3 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 130.2 – 133.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 137.4 – 144.6 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 50.6 – 54.2 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 130.2 - 133.8 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊ม 137.4 – 144.6 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 123 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 253.1 - 260 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว 25.3 – 28.9 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ RENAULT R 310<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 135/140 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 12000 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด -<br />
แรงบิดสูงสุด -<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 5 – 3 – 6 – 2 – 4<br />
รอบเดินเบา<br />
รอบสูงสุด 2460 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ 135.020 – 135.040 มม. ค่าสูงสุด 135.10 มม.<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบสูงสุด 0.0039 มม. (0.10 มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.0019 – 0.0043 นิ้ว (0.05 – 0.11 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 134.878 – 134.903 นิ้ว ค่าต่ำสุด 134.79 มม<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 1 0.019 – 0.0275 นิ้ว (0.5 - 0.7 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 2 0.016 – 0.0256 นิ้ว (0.4 – 0.65 มม.)<br />
ระยะปากแหวนตัวที่ 3 0.016 – 0.030 นิ้ว (0.4 – 0.78 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวน 1 – 3 สูงสุด 0.0059 นิ้ว (00.15 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 89 – 94 – 98.96 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน ± 0.0019 นิ้ว (± 0.05 มม.)<br />
ระยะรุนข้อเหวี่ยง 0.007 – 0,0118 นิ้ว (0.12 – 0.30 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 83.96 – 83.98 มม.<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน -<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยว<br />
ตัวที่ 1, 2, 3 59.94 – 59.97 มม.<br />
ตัวทึ่ 4, 5, 6 58.94 – 58.97 มม.<br />
ตัวที่ 7 50.94 – 50.97 มม.<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยวสูงสุด 0.0037 นิ้ว (0.10 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.005 – 0.014นิ้ว (0.13 – 0.36 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0039 – 0.0098 นิ้ว (0.10 -0.25 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบ -<br />
มุมวาล์ว ไอดี 30 องศา<br />
ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี (เย็น) 0.010 นิ้ว (0.25 มม.)<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย (เย็น) 0.020 นิ้ว (0.50 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีด -<br />
แรงดันหัวฉีด 3335 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 3190 ปอนด์/ตารางนิ้ว (230 บาร์)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่อง 98.6 ± 7.25 ปอนด์/ตารางนิ้ว (6.8 ± 0.5 บาร์)<br />
อุณหภูมิน้ำ 95 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมน มีสกรู 2 ตัว 229 ฟุต-ปอนด์<br />
มีสกรู 4 ตัว 170<br />
ข้อก้านสูบ 74 ฟุต-ปอนด์<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 15 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว 258 ฟุต-ปอนด์<br />
นัตเกียร์ปั๊ม 52 ฟุต-ปอนด์<br />
เฟืองปั๊มหัวฉีด นัต 25 มม. 89 ฟุต-ปอนด์<br />
นัต 30 มม. 132 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อฉีดน้ำมันเครื่อง 15 ฟุต-ปอนด์<br />
เสื้อฟลายวีล 37 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 148 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ 185 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว (เล็ก) 4.3 ฟุต-ปอนด์<br />
(ใหญ่) 96 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 30 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 59 ฟุต-ปอนด์<br />
เครื่องยนต์ TOYOTA 12 R<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 3.17/3.07 นิ้ว (80.5/78.0 มม.)<br />
ความจุกระบอกสูบ 96.8 ลบ.นิ้ว (1587 ซีซี)<br />
กำลังม้าสูงสุด 90 HP ที่ 5400 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 98.0 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3000 รอบ/นาที (13.5 กก-ม.)<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 3 – 4 – 2<br />
รอบเดินเบา 700 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 5800 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐาน 156 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 114 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 3.170 – 3.171 นิ้ว (80.5 – 80.55 มม.)<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0015 – 0.002 นิ้ว (0.04 – 0.05 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 3.167 – 3.169 นิ้ว Z80.45 – 80.50 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 1 0.006 – 0.013 นิ้ว (0.15 – 0.34 มม.)<br />
ระยะปากแหวนอัดตัวที่ 2 0.004 – 0.012 นิ้ว (0.10 – 0.30 มม.)<br />
ระยะปากแหวนน้ำมันตัวที่ 3 0.004 – 0.012 นิ้ว (0.10 – 0.30 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 1 0.0012 – 0.0028 นิ้ว (0.030 – 0.070 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 2 0.0012 – 0.0028 นิ้ว (0.030 – 0.070 มม.)<br />
ระยะเคลียแรนท์ร่องแหวนตัวที่ 3 0.0012 – 0.0028 นิ้ว (0.025 – 0.070 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.2825 – 2.2835 นิ้ว (57.976 – 58.000 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0011 – 0.0022 นิ้ว (0.028 – 0.052 มม.) ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว (0.1 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.0016 – 0.0051 นิ้ว (0.04 – 0.13 มม.) ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว (0.2 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 1.9676 – 1.9685 นิ้ว (49.976 - 50.000 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0009 – 0.0019 นิ้ว (0.024 – 0.048 มม.) ค่าสูงสุด 0.003 นิ้ว(0.08 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน<br />
ตัวหน้า 1.8291 – 1.8297 นิ้ว (46.459 – 46.475 มม.)<br />
ตัวกลาง 1.8193 – 1.8199 นิ้ว (46.209 – 46.225 มม.)<br />
ตัวหลัง 1.8094 – 1.8100 นิ้ว (45.959 – 45.975 มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว 0.0010–0.0026 นิ้ว (0.05–0.066 มม.) ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว (0.1 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.002 – 0.005 นิ้ว (0.05 – 0.15 มม.) ค่าสูงสุด 0.008 นิ้ว (0.2 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเพลาลูกเบี้ยวสูงสุด 0.012 นิ้ว (0.3 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบ 0.002 นิ้ว (0.05 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี (ร้อน) 0.008 นิ้ว (0.20 มม.)<br />
ตั้งวาล์ว ไอเสีย (ร้อน) 0.014 นิ้ว (0.36 มม.)<br />
ตั้งเขี้ยวหัวเทียน ND W 14 EX-U 0.040 นิ้ว<br />
ตั้งหน้าทองขาว 0.016 – 0.020 นิ้ว (0.4 – 0.5 มม.)<br />
มุมคะเวล 50 – 54 องศา<br />
ตั้งไฟ 8 องศา BTDC<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 2500 รอบ/นาที 42.7 ปอนด์/ตารางนิ้ว (3 กก/ตาราง ซม.)<br />
อุณหภูมิของน้ำ 80.5 - 85 องศา C (177 – 185 ฟาเรนไฮด์)<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนข้อเหวี่ยง 70.9 – 81.0 ฟุต-ปอนด์ (9.8 – 11.2 กก-ม.)<br />
ข้อก้านสูบ 28.9 – 36.2 ฟุต-ปอนด์ (4.0 – 5.0 กก-ม.)<br />
กันรุนเพลาลูกเบี้ยว 7.2 – 11.6 ฟุต-ปอนด์ (1.0 – 1.6 กก-ม.)<br />
ฟลายวีล 42.0 - 47.7 ฟุต-ปอนด์ (5.8 – 6.6 กก-ม.)<br />
เพลาลูกเบี้ยว - -<br />
อ่างน้ำมันเครื่อง - -<br />
มูเลย์หน้า 38.3 - 48.5 ฟุต-ปอนด์ (5.3 – 6.7 กก-ม.)<br />
ฝาสูบ 74.5 – 84.6 ฟุต-ปอนด์ (10.3 – 11.7 กก-ม.)<br />
กระเดื่องวาล์ว 12.7 – 17.7 ฟุต-ปอนด์ (1.75 – 2.45 กก-ม.)<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 21.0 – 29.7 ฟุต-ปอนด์ (2.9 – 4.1 กก-ม.)<br />
เครื่องยนต์ TOYOTA 2 D, 115 DA<br />
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ<br />
กระบอกสูบ/ระยะชัก 105/125 มม.<br />
ความจุกระบอกสูบ 9494 ซีซี<br />
กำลังม้าสูงสุด 130 HS ที่ 2600 รอบ/นาที<br />
แรงบิดสูงสุด 290 ฟุต-ปอนด์ ที่ 1400 รอบ/นาที<br />
ลำดับการจุดระเบิด 1 – 4 – 2 – 6 – 3 – 5<br />
รอบเดินเบา 400 - 450 รอบ/นาที<br />
รอบสูงสุด 3000 รอบ/นาที<br />
กำลังอัดมาตรฐานที่ 200 รอบ/นาที 398 ปอนด์/ตารางนิ้ว ค่าต่ำสุด 313 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบมาตรฐาน 4.1342 นิ้ว (105.010 มม.)<br />
เคลียแรนท์ลูกสูบกับกระบอกสูบ 0.0039–0.0047 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0315 นิ้ว (0.1–0.12มม.)<br />
บ่ากระบอกสูบ 0.002 - 0.006 นิ้ว (0.06 – 0.15 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบมาตรฐาน 4.1299 นิ้ว (104:9 มม.)<br />
ระยะปากแหวนลูกสูบ 0.0118 – 0.0197 นิ้ว ( 0.3 - 0.5 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนอัดตัวที่ 1 0.0024 – 0.0039 นิ้ว (0.063 – 0.10 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนอัดตัวที่ 2,3 0.002 – 0.0035 นิ้ว (0.05 – 0.09 มม.)<br />
เคลียแรนท์ร่องแหวนอัดตัวที่ 4,5 0.002 – 0.0035 นิ้ว (0.05 – 0.09 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อเมนมาตรฐาน 2.9516 – 2.9524 นิ้ว (74.97 – 74.99 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อเมน 0.0015 - .0032 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว (0.039 – 0.081 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง 0.0016 – 0.0098 นิ้ว ค่าต่ำสุด 0.0118 นิ้ว (0.04 – 0.25 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางข้อก้านมาตรฐาน 2.4398 – 2.4405 นิ้ว (61.97 – 61.99 มม.)<br />
เคลียแรนท์ข้อก้าน 0.0015 – 0.0032 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.004 นิ้ว (0.039 - 0.081 มม.)<br />
เส้นผ่าศูนย์กลางเพลาลูกเบี้ยวมาตรฐาน<br />
ตัวที่ 1 2.1234 – 2.1247 นิ้ว (53.935 – 53.968 มม.)<br />
ตัวที่ 2, 3 2.0447 – 2.0460 นิ้ว (51.935 – 51.968 มม.)<br />
ตัวที่ 4 1.9663 – 1.9675 นิ้ว (49.945 – 49.975 มม.)<br />
เคลียแรนท์เพลาลูกเบี้ยว<br />
ตัวที่ 1 - 3 0.0013 – 0.0039 นิ้ว (0.032 – 0.1 มม.)<br />
ตัวที่ 4 0.001 – 0.003 นิ้ว (0.025 – 0.085 มม.)<br />
ระยะรุนเพลาลูกเบี้ยว 0.0023 – 0.0039 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0079 นิ้ว (0.06 – 0.1 มม.)<br />
ระยะแบ็คแลคของเฟือง 0.0039 นิ้ว ค่าสูงสุด 0.0118 นิ้ว (0.1 มม.)<br />
ความโก่งของฝาสูบ 0.002 นิ้ว (0.05 มม.)<br />
มุมวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 45 องศา<br />
ตั้งวาล์ว ไอดี + ไอเสีย 0.015 นิ้ว (0.4 มม.)<br />
ตั้งปั๊มหัวฉีดที่ 400 รอบ/นาที 23 องศา BTDC<br />
แรงดันหัวฉีด 1422.3 – 1493.4 ปอนด์/ตารางนิ้ว (100 – 105 กก/ตาราง ซม.)<br />
แรงดันน้ำมันเครื่องที่ 2600 รอบ/นาที 42.6 ปอนด์/ตารางนิ้ว<br />
อุณหภูมิของเครื่อง 90 องศา C<br />
แรงขันสกรูต่าง ๆ<br />
ข้อเมนเพลาข้อเหวี่ยง 100 ฟุต-ปอนด์<br />
ข้อก้านสูบ 55 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาครอบเพลาลูกเบี้ยว 15 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลาลูกเบี้ยว -<br />
เสื้อฟลายวีล 60 ฟุต-ปอนด์<br />
ฟลายวีล 75 ฟุต-ปอนด์<br />
มูเลย์หน้า 275 ฟุต-ปอนด์<br />
ฝาสูบ ตัวใหญ่ 125 ฟุต-ปอนด์<br />
ตัวเล็ก 45 ฟุต-ปอนด์<br />
ท่อร่วมไอดี + ไอเสีย 22 - 35 ฟุต-ปอนด์<br />
เพลากระเดื่องวาล์ว 47 ฟุต-ปอนด์Unknownnoreply@blogger.com45tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-67515467368230462452007-10-29T16:13:00.000+07:002008-12-10T17:01:57.624+07:00ครูช่าง<span style="font-size:130%;color:#000099;">รวมแหล่งภาพโบราณ ย้อนยุคคลาสสิค</span><br /><br /><br /><p align="center"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5121016412485056098" style="CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcETuNAMbsOuh4oOnsXDSdXkbpHGVrNC0hxKiPyU39FdKZiwXsRAVvu3WjBbWvGSY-9s5KJHlYwF4-p2BzzCZnTSbnP1nkQvijAgJwpXUxmKkOaClZSiTsyalBiTJd_G7U1U28t3Pades/s200/100_0809.JPG" border="0" /></p><p align="left"><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkfkOADGnLrv7Mk1i7Fzc85C8jZ0tgbX9S1mlMXSbf2la9L0ULecgMS-fv3Ope_RSrTwHPdNAXNuLct-sJWA-1Kcs9-3glK3dooOrNmgqNPaDevBq2i0o34n4GPkB-BN-txULWsAdX8Ss/s1600-h/100_0808.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5121015179829442114" style="CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkfkOADGnLrv7Mk1i7Fzc85C8jZ0tgbX9S1mlMXSbf2la9L0ULecgMS-fv3Ope_RSrTwHPdNAXNuLct-sJWA-1Kcs9-3glK3dooOrNmgqNPaDevBq2i0o34n4GPkB-BN-txULWsAdX8Ss/s200/100_0808.JPG" border="0" /></a></p><br /><br /><br /><br /><p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhihJiVEZv5IY0AosLE3-4BJF62oiXzrpLYMDlCYidITkY24o5TCL835wB76rYuy5e8iHWkpqrNELWpVaxVpN8Gsxds_VXSi285QValI2DF2h2WVuGqt00Ss8QwNVQsGrkz4y7XcyJLgi4/s1600-h/100_0811.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5121015746765125202" style="CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhihJiVEZv5IY0AosLE3-4BJF62oiXzrpLYMDlCYidITkY24o5TCL835wB76rYuy5e8iHWkpqrNELWpVaxVpN8Gsxds_VXSi285QValI2DF2h2WVuGqt00Ss8QwNVQsGrkz4y7XcyJLgi4/s200/100_0811.JPG" border="0" /></a><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhihJiVEZv5IY0AosLE3-4BJF62oiXzrpLYMDlCYidITkY24o5TCL835wB76rYuy5e8iHWkpqrNELWpVaxVpN8Gsxds_VXSi285QValI2DF2h2WVuGqt00Ss8QwNVQsGrkz4y7XcyJLgi4/s1600-h/100_0811.JPG"></a></p><br /><br /><br /><br /><p align="right"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5121013758195267106" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj9b8lyDwHy7QKykWsHouEs4KNawD4MG0J_9zgEIhDq30lynRoipWBPBB5wW6WeNRaowQs0uEI3aHbCixEr1ahOK1cf8VSfYs8VAoA0BqC7MHVaX_3jmqdeX8uyEc-zSJgfcgD_WkhNHcM/s200/100_0810.JPG" border="0" /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhihJiVEZv5IY0AosLE3-4BJF62oiXzrpLYMDlCYidITkY24o5TCL835wB76rYuy5e8iHWkpqrNELWpVaxVpN8Gsxds_VXSi285QValI2DF2h2WVuGqt00Ss8QwNVQsGrkz4y7XcyJLgi4/s1600-h/100_0811.JPG"></a></p><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><div align="center"><span style="color:#006600;">รับบริการซ่อมรถยนต์ทั่วจังหวัดราชบุรี<br />สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาทางรถยนต์<br />เห็นด้วยส่งอีเมล์ตอบกลับ<br /><br />ขอขอบคุณครับ</span></div>Unknownnoreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-44321179947253204582007-10-14T10:03:00.000+07:002008-12-10T17:01:58.134+07:00รวมภาพแหล่งท่องเที่ยว<div align="left"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg9Eg76keCzom0dVR0isvdcrCZZLsgIfXO56vlabWazpKswSgU6ceTkww_z7wJQSwDe0xI_oIHf51eamsW2vDIrtmNsW62WgUbsvfgx2uIkk8Zs-4hWv_x23QpWkY77Tg8_AI5Yq1At0sU/s1600-h/100_1089.JPG"><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:85%;color:#000099;"><strong><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5118442747822208450" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg9Eg76keCzom0dVR0isvdcrCZZLsgIfXO56vlabWazpKswSgU6ceTkww_z7wJQSwDe0xI_oIHf51eamsW2vDIrtmNsW62WgUbsvfgx2uIkk8Zs-4hWv_x23QpWkY77Tg8_AI5Yq1At0sU/s200/100_1089.JPG" border="0" /></strong></span></a><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="font-size:85%;color:#000099;"> โบสถ์ดรุณานุเคราะห์ </span></span></div><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#000099;"><div align="left"><br /></span></span><span style="color:#000099;"><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:85%;">ความงามที่อนุรักษ์ </span></span></div><div align="left"><span style="color:#000099;"><span style="font-family:trebuchet ms;"><br /><span style="font-size:85%;">จังหวัดสมุทรสงคราม</span></span><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:85%;"> </span></span></div><p><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /></p><span style="font-size:130%;"></span><p></p><p><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /></p><div align="center"><span style="font-size:130%;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;"></span></div><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjc7a6d34Qhqet38M729O9moMxgeAqii1e0Ho3Mt8-8_dhooC4kSmcOtTIZ34J6IiM8_qmAYCNsXpmWrdOqStE2YKJI0UaYckyXU9fab-9Q5wMDAr0mZwgh_KjOmKjIyjlCa5S_vZ5X8ZI/s1600-h/100_0691.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5118441532346463666" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjc7a6d34Qhqet38M729O9moMxgeAqii1e0Ho3Mt8-8_dhooC4kSmcOtTIZ34J6IiM8_qmAYCNsXpmWrdOqStE2YKJI0UaYckyXU9fab-9Q5wMDAr0mZwgh_KjOmKjIyjlCa5S_vZ5X8ZI/s200/100_0691.JPG" border="0" /></a><span style="font-size:180%;"><span style="color:#ff0000;">แรด</span><br /></span></div><div align="center"></div><div align="center"><span style="color:#006600;">ทำบุญให้อาหารปลา ณ.วัดโพธิ์งาม</span><br /><span style="color:#006600;">จังหวัสมุทรสงคราม</span><br /></div><div align="center"><br /></div><div align="center"><br /></div><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfYQ_zHFCR1gkZxZmCkIfPtozuh5hAs60bM8sSvTDiHsa-t8ZP2-DWsylK6z9uduAfEumGXXwmlHysYrBonol_wPP68RbJFCkeQUnUgiSLHBbeCEkhu0X2psnOpEAuzgy_-jzC6iXrCIk/s1600-h/100_1600.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5118440621813396882" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfYQ_zHFCR1gkZxZmCkIfPtozuh5hAs60bM8sSvTDiHsa-t8ZP2-DWsylK6z9uduAfEumGXXwmlHysYrBonol_wPP68RbJFCkeQUnUgiSLHBbeCEkhu0X2psnOpEAuzgy_-jzC6iXrCIk/s200/100_1600.JPG" border="0" /></a><br /><br /><br /><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#000099;"><strong>ยามเช้าท้องทะเลริมชายหาด</strong></span><br /></div><br /><div align="center"><span style="color:#000099;"><strong><span style="font-size:130%;">จังหวัดประจวบคีรีขันธ์</span></strong> </span></div><br /><br /><br /><br /><div align="center"><span style="color:#000099;">ติ - ชมส่งเมล์มาครับ ขอบคุณครับ </span></div><span style="color:#000099;"><div align="center"></div></span></div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-80310598340251211382007-10-14T10:00:00.000+07:002007-10-14T10:00:45.415+07:00ประวัติจังหวัดราชบุรี<div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;">ราชบุรี</span></div><p align="justify"><span style="color:#663366;">จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง "เมืองพระราชา" ราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองหนึ่งของประเทศไทย จากการศึกษา และขุดค้นของ นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี พบว่าดินแดนแถบลุ่ม แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็น ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต จากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ ใน บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า เมืองราชบุรีเป็นเมือง หน้าด่านที่สำคัญ และ เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ยกทัพมาตั้งรับศึกพม่าในเขต ราชบุรีหลายครั้ง ครั้งสำคัญที่สุดคือสงครามเก้าทัพ ต่อมา พ.ศ. 2360 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างกำแพงเมืองใหม่ทาง ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน พ.ศ. 2437 ได้ทรงเปลี่ยนการปกครองส่วนภูมิภาคโดยรวมหัวเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ตั้งขึ้นเป็นมณฑล และได้รวมเมืองราชบุรี เมืองกาญจนบุรี เมือง สมุทรสงคราม เมืองเพชรบุรี เมืองปราณบุรี เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 6 เมือง ตั้งขึ้นเป็นมณฑลราชบุรี ตั้งที่บัญชาการมณฑล ณ ที่เมืองราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง (ปัจจุบันคือศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า) ต่อมาใน พ.ศ. 2440 ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรี จากฝั่งซ้าย กลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชุบรี ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง จนถึง พ.ศ. 2476 เมื่อได้มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลทั้งหมด มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิกและคงฐานะเป็นจังหวัดราชุบรีจนถึงปัจจุบัน</span> </p><p align="left">คำขวัญจังหวัดราชบุรี<br />" คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง<br />เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่<br />ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน<br />เพลินค้าง คาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี "</p><p align="left"> </p><p align="left"> </p>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-26668920244437241322007-10-05T08:57:00.001+07:002008-09-06T12:48:47.359+07:00โครงสร้างของเครื่องยนต์<span style="color:#ff0000;">หน้าที่ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์<br /></span>1.ฝาสูบ( cylinder head )<br />ฝาสูบเป็นชิ้นส่วนที่ปิดห้องเผาไหม้และมีชุดกลไกของลิ้นอยู่ หัวฉีด ท่อไอดี ไอเสีย หัวเผา ติดตั้งอยู่ ฝาสูบจะทำด้วย เหล็กหล่อที่มีความแข็งแรงสูงต้องทนต่อแรงอัดได้ดี ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ทำมาจากเหล็กหล่อหรืออลูมิเนียมผสมแล้วแต่ การออกแบบของบริษัท<br />2. ท่อร่วมไอเสีย ( exhaust manifold )<br />เมื่อเกิดการเผาไหม้แก๊สที่เหลือจะต้องออกสู่อากาศภายนอกโดยทางลิ้นไอเสียและออกมาที่ท่อร่วมไอเสียท่อร่วมไอเสีย ทำมาจากเหล็กหล่อขึ้นรูป<br />3. ท่อร่วมไอดี ( intake manifold )<br />ท่อไอดีเป็นที่ผ่านอากาศบริสุทธิ์ที่ถูกดูดผ่านทางหม้อกรองอากาศเพื่อเข้าไปยังกระบอกสูบในจังหวะดูด โดยผ่านทาง ลิ้นไอดี ท่อไอดีส่วนมากทำมาจากอลูมิเนียม<br />4. ลิ้น ( valve ) (วาล์วไอเสีย = exhaust valve ) (วาล์วไอเสีย = intel valve )<br />หน้าที่ของลิ้นคือป้องกันการรั่วของไอดี และจะต้องเปิด - ปิดอย่างรวดเร็วในช่างเวลาอันสั้นลิ้นจะสวมอยู่กับปลอก นำลิ้นและทำงานลักษณะเคลื่อนที่ในแนวขึ้น - ลงหน้าสัมผัสของลิ้นจะทำมุม 30 องศาหรือ 45 องศาเพื่อป้องกันการรั่ว ลิ้นไอดีและไอเสียทำด้วยวัสดุที่ทนทานต่อความร้อน ลิ้นไอดีร้อนถึง 400 เซลเซียส ซึ่งลิ้นไอเสียร้อนถึง 500-800 เซลเซียส<br />5. สปริงลิ้น ( valve spring )<br />สปริงลิ้นจะเป็นตัวทำให้ลิ้นปิดสนิทกับบ่าลิ้นได้อย่างรวดเร็ว สปริงลิ้นจะต้องมีค่าความเป็นสปริงคงที่เพื่อป้องกัน การเต้นในขณะที่เครื่องยนต์มีความเร็วสูง<br />6. หมวกวาล์ว<br />เป็นตัวอยู่ด้านบนของสปริงเพื่อเป็นตัวช่วยล็อคสปริงโดยมีปะกับวาล์วเป็นตัวล็อค<br />7. ยางหมวกวาล์ว<br />เป็นตัวที่อยู่ด้านในของสปริงประกอบติดกับปลอกวาล์วเป็นตัวป้องกันน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปตามลิ้นและเข้าไปใน กระบอกสูบ<br />8. ปะกับลิ้น ( valve spring retainer )<br />เป็นตัวล็อคลิ้นให้อยู่ไม่หลุดกับสปริงในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน<br />9. กรองอากาศ ( air cleaner ) ใส้กรองอากาศ ( air filter)<br />หน้าที่คือกรองสิ่งสกปรก ฝุ่นไม่ให้เข้ากระบอกสูบโดยมีไส้กรองเป็นตัวดักและส่วนมากไส้กรองจะทำมากระดาษ<br />10. กระเดื่องวาล์ว ( rocker arm )<br />เป็นกลไลเพื่อเปิด - ปิด ลิ้นตามจังหวะของเพลาลูกเบี้ยว<br />11. ลูกสูบ ( piston )<br />เป็นชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหวขึ้น - ลง อยู่ในกระบอกสูบ ลูกสูบนั้นจะต้องมีความแข็งแรงพอที่จะรับแรงกดดัน และความร้อนที่เกิดขึ้นในห้องเผาไหม้ได้ หน้าที่ของลูกสูบก็คือ รับแรงกดดันจากการเผาไหม้และส่งกำลังงานนี้ไปสู่เพลา ข้อเหวี่ยงโดยผ่านก้านสูบ โดยปกติแล้วลูกสูบนั้นจะทำมาจากโลหะผสมอลูมิเนียม<br />หน้าที่<br />1 รับแรงดันจากการระเบิด<br />2 เป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้<br />3 เป็นซีลป้องกันการรั่วถึงกัน ระหว่างห้องเผาไหม้กับห้องเพลาข้อเหวี่ยง<br />4 ระบายความร้อน<br />คุณสมบัติวัสดุที่ใช้ทำลูกสูบ<br />- น้ำหนักเบา<br />- มีคุณสมบัติในการลื่นไถลดี<br />- มีอัตราขยายตัวต่ำ<br />- มีราคาถูก<br />- มีความแข็งแรง<br />- ทนต่อการสึกหรอ<br />- มีการถ่ายเทความร้อน<br />วัสดุที่ใช้ทำลูกสูบ<br />- ลูกสูบเหล็กหล่อ<br />ในเครื่องยนต์รุ่นเก่าลูกสูบทำจากเหล็กหล่อ<br />- ลูกสูบอลูมิเนียมผสม<br />วิวัฒนาการได้สูงขึ้นวัสดุที่ใช้ทำจึงดีขึ้นตามลำดับ<br />การระบายความร้อนลูกสูบ<br />1 แบบฉีดน้ำมันเครื่องหล่อลื่นใต้หัวลูกสูบ<br />น้ำมันเครื่องจะถูกฉีดขึ้นไประบายความร้อยใต้ลูกสูบ<br />2 แบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันเครื่องที่ไหลเป็นช่วง ๆ<br />น้ำมันเครื่องจะไหลไปเก็บไว้ที่ช่องเล็ก ๆที่ข้างลูกสูบ<br />3 แบบน้ำมันเครื่องไหลด้วยความเร็วสูง<br />น้ำมันเครื่องจะไหลทางช่องทางก้านสูบขึ้นไปสู่สลักก้านสูบ<br />12. แหวนลูกสูบ ( piston ring )<br />แหวนลูกสูบจะสวมอยู่ที่ร่องของลูกสูบเพื่อป้องกันไม่ให้กำลังอัดรั่ว และเป็นตัวนำความร้อนของลูกสูบออกไปสู่ผนัง กระบอกสูบ แหวนลูกสูบยังกวาดฟิล์มน้ำมันที่กระบอกสูบ และป้องกันไม่ให้น้ำมันเครื่องเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้ แหวนลูกสูบทั่ว ๆไป จะเคลือบด้วยโครเมี่ยมที่ด้านบน ด้านล่าง และด้านนอกแหวนที่เคลือบด้วยโครเมียมนี้จะลด ความฝืด และนำความร้อนได้ดี แต่แหวนลูกสูบที่เคลื่อบโครเมียมจะไม่ใช้กับกระบอกสูบแบบโครมาร์ด หรือกระบอกสูบ ที่เป็นเหล็กหล่อ นั่นคือกระบอกสูบที่แข็งจะต้องใช้แหวนธรรมดาหรือกระบอกสูบธรรมดาต้องใช้แหวนแบบพิเศษ<br />แหวนลูกสูบสามารถแบ่งได้เป็น<br />1. แหวนอัด<br />2. แหวนกวาดน้ำมัน<br />3. แหวนน้ำมัน<br />ลักษณะของแหวนลูกสูบ<br />1. แบบมน<br />2. แบบเรียว<br />3. แบบตัดล่าง<br />4. แบบตัดตรง<br />5. แบบตัดเฉียง<br />6. แบบเปเปอร์<br />การจัดปากแหวนลูกสูบ<br />1. จัดปากแหวนห้ามตรงกัน<br />2. ห้ามจัดปากแหวนตรงกับชายกระโปรงลูกสูบ<br />3. ห้ามจัดปากแหวนตรงกับสลักลูกสูบ<br />การใส่แหวนเข้ากับลูกสูบ<br />1. ใส่แหวนให้ตัวหนังสือขึ้นด้านบน<br />2. ใส่แหวนตัวด้านในก่อนเสมอ<br />13. แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง ,แบริ่งข้อเมน ( main bearing )<br />ทำหน้าที่รองรับระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงกับเสื้อสูบ<br />14. แบริ่งกันรุน (thrust bearing )<br />เป็นแบริ่งที่มีหน้าแปลนเป็นขอบสูงขึ้นมาด้านข้างสำหรับรองรับแรงกระทำด้านข้างในขณะที่เครื่องยนต์มีการเหยียบ คลัตช์ เพลาข้อเหวี่ยงจะมีการเคลื่อนที่ไปมา<br />15. แบริ่งก้านสูบ<br />ทำหน้าที่รองรับแกนหมุนโดยสามารถลดผืด การสึกหรอและลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนที่มีการ การเคลื่อนที่ สัมพันธ์กันกับแบริ่งมีหลายแบบขึ้นอยู่กับแบบการเลือกใช้งานเช่น แบบกลมหรือเรียกว่าแบบบูช และ แบบครึ่งซีก เครื่องยนต์ที่ผลิตในประเทศทางเอเชีย เช่นรถยนต์ โตโยต้า , อีซูซุเครื่องยนต์ที่มาเดิมความโตข้อเหวี่ยงและข้อก้าน จะเป็นค่ามาตรฐานคือความโตจะอยู่ที่ผู้ผลิตจะกำหนด และอ่านค่าที่แบริ่งจะมีตัวหนังสือบอกเป็นคำว่า " STD " อยู่และ เมื่อเครื่องยนต์ถูกใช้งานมีการซ่อมเครื่องยนต์ จำเป็นต้องเจียรไนข้อเหวี่ยงการเจียรไนคือการนำข้อเหวี่ยงไปกลึงใหม่นั่น คือก็จะทำให้ข้อเหวี่ยงเล็กลงเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแบริ่งตามไปด้วยซึ่งก็จะตามกับที่เรานำข้อไปเจียรไนคือแบริ่งใหญ่ขึ้น วัสดุที่ใช้ทำ แบริ่งจะทำด้วยดีบุกผสมกับตะกั่ว , ทองแดงผสมตะกั่ว<br />การเปลี่ยนแบริ่ง<br />การอ่านค่าแบริ่ง ค่ามาตรฐาน คือ STD<br /> ข้อเหวี่ยงเจียรไนครั้งที่ 1 ขนาดแบริ่ง 0.25 มม.<br /> ข้อเหวี่ยงเจียรไนครั้งที่ 2 ขนาดแบริ่ง 0.50 มม.<br /> ข้อเหวี่ยงเจียรไนครั้งที่ 3 ขนาดแบริ่ง 0.75 มม.<br /> ข้อเหวี่ยงเจียรไนครั้งที่ 4 ขนาดแบริ่ง 1.00 มม.<br />การเจียรไน 1 ครั้งจะเจียรไน ครั้งละ 0.25 มม. แต่ถ้ายังเป็นรอยอีก ก็จำเป็นต้องครั้งที่ 2<br />แบริ่ง ขนาด 0.25 มม. บางครั้งเราเรียกว่า "SIZE 10 "<br />แบริ่ง ขนาด 0.50 มม. บางครั้งเราเรียกว่า "SIZE 20 "<br />การอ่านค่าแบริ่ง "SIZE 10 , SIZE 20 " จะเป็นการอ่านค่าของรถยนต์ทางยุโรป<br />16. เสื้อสูบ ( cylinder block )<br />เป็นโครงสร้างและเป็นที่ยึดส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องยนต์ กระบอกสูบ ,เพลาลูกเบี้ยวและอื่นๆ โดยทั่วไปทำด้วย เหล็กหล่อที่สามารถทนแรงกระแทก และอุณหภูมิของห้องเผาไหม้ภายในกระบอกสูบได้ดีและเป็นที่บอกรหัสเครื่องยนต์ หรือหมายเลขเครื่องยนยต์<br />17. ปลอกสูบ ( liner )<br />ปลอกสูบทั่วไปมี 2 ชนิด<br />1 ปลอกสูบแบบเปียก (wet liner )<br />วัสดุที่ใช้ทำปลอกสูบคือเหล็กหล่อ ด้านในเคลือบด้วยโครเมียม ผ่านการชุบแข็ง เพื่อลดการสึกหรอ ด้านนอกจะโดน น้ำหล่อเย็นโดยตรง<br />ข้อดีปลอกสูบแบบเปียก คือสามารถถอด - เปลี่ยนได้จะมีลูกยางเป็นซีลป้องกันการรั่วของน้ำหล่อเย็นเข้าอ่าง น้ำมันเครื่อง<br />2 ปลอกสูบแบบแห้ง ( dry liner )<br />วัสดุที่ใช้ทำจะเป็นเหล็กเหนียวผสมกับวัสดุเช่นสเตนแลส สามารถถอด - เปลี่ยนได้ ด้านนอกปลอกสูบจะ<br />ไม่โดนน้ำหล่อเย็นโดยตรงจะมีเสื้อสูบอยู่ชั้นนอก<br />18. ก้านสูบ ( connecting rod )<br />เป็นชิ้นส่วนที่ต่อระหว่างลูกสูบต่อไปยังเพลาข้อเหวี่ยง โดยทำหน้าที่ เปลี่ยนการเคลื่อนที่แบบกลับไปกลับมาของ ลูกสูบเป็นการเคลื่อนที่แบบหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง ก้านสูบทำมาจากเหล็กกล้าชนิดพิเศษ<br />19. สลักก้านสูบ<br />เป็นวัสดุแกนทรงกระบอกที่ใช้ยึดระหว่างลูกสูบกับก้านสูบ<br />20. ลูกกระทุ้ง ( cam follower )<br />เป็นตัวกลางถ่ายทอดแรงกระทำจากลูกเบี้ยวไปยังก้านกระทุ้งเพื่อกระตุ้นให้วาล์วเกิดการทำงาน<br />21. ก้านกระทุ้ง ( push rod )<br />เป็นชิ้นส่วนที่ใช้ถ่ายทอดการเคลื่อนที่ระหว่างลูกกระทุ้งกับกระเดื่องวาล์วของเครื่องยนต์จะใช้ในเครื่องยนต์แบบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ( OHV )<br />22. ปั๊มน้ำมันเครื่อง ( oil pump )<br />หน้าที่ดูดน้ำมันจากอ่างน้ำมันและส่งไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ปั๊มน้ำมันเครื่องถูกขับโดยเฟืองจาก เพลาลูกเบี้ยวหรือถูกขับโดยเพลาข้อเหวี่ยงโดยตรงจะมีใช้เครื่องยนต์แบบ ( OHC )<br />23. เพลาลูกเบี้ยว ( camshaft )<br />มีหน้าที่เปิดวาล์วของเครื่องยนต์โดยรับพลังงานจากเพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนเป็น 1/2 ของเพลาข้อเหวี่ยงจะมีลูกเบี้ยว<br />ไอดีและไอเสียวัสดุที่ใช้ทำเป็นเหล็กหล่อผสมแกรไฟต์และชุบแข็งที่ผิวลูกเบี้ยวเพื่อลดการสึกหลอระหว่างการเสียดสี<br />วิธีการขับเพลาลูกเบี้ยว<br />1. แบบใช้เฟืองขับโดยตรง (gear timing )<br />2. แบบใช้โซ่ (chain timing )<br />3. แบบใช้สายพาน (belt timing ) มีหน้าที่เป็นชิ้นส่วนที่พาชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้หมุนตาม เช่นเฟืองปั๊มน้ำมัน เชื้อเพลิงเฟืองเพลาลูกเบี้ยวโดยเริ่มรับพลังงานมาจากเพลาข้อเหวี่ยง<br />24. กรองน้ำมันหล่อลื่น ( oil filler )<br />มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกหรือเศษต่างจากน้ำมันเครื่องในรถยนต์ในปัจจุบันจะใช้กรองแบบผนึกภายในทำด้วยกระดาษ<br />25. กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ( fuel fitter )<br />มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกหรือเศษต่างๆ จากน้ำมันโซล่าหรือดีเซล ในรถยนต์<br />26. หัวเผา ( glow plug )<br />มีหน้าที่อุ่นไอดีให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นเพื่อให้เครื่องยนต์ติดได้ง่ายขึ้น<br />27. เพลาข้อเหวี่ยง ( crankshaft )<br />เป็นเพลาหลักของเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดการเคลื่อนที่ขึ้น - ลงของลูกสูบเป็นการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง เพลาข้อเหวี่ยงผลิตขึ้นมาจากเหล็กกล้าและชุบแข็งด้วยความร้อน เพลาข้อเหวี่ยงประกอบไปด้วยข้อเมนและข้อก้านสูบ<br />28. ล้อช่วยแรง ( fly wheel )<br />เป็นล้อที่มีน้ำหนักมากและยึดติดกับเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อสะสมพลังงานในขณะหมุนและช่วยให้เพลาหมุนต่อไปได้อย่าง สม่ำเสมอและเป็นที่ยึดติดเฟืองสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์<br />29. พลูเลย์หน้าเครื่อง ( pulley )<br />เป็นพลูเลย์ที่ยึดติดกับเพลาข้อเหวี่ยงสำหรับใช้ขับเคลื่อนปั๊มน้ำและระบบไฟชาจน์โดยใช้สายพานเป็นตัวขับ 30. ปั๊มน้ำ<br />ทำหน้าที่หมุนเวียนน้ำในระบบ ปั๊มน้ำติดตั้งอยู่ด้านหน้าเครื่องยนต์ถูกขับด้วยสายพานหน้าเครื่อง<br />31. ฝาครอบหน้าเครื่อง<br />เป็นชิ้นส่วนที่ทำมาจากอลูมิเนียมสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้เฟืองและแบบโซ่เป็นชุดไทมิ่งหน้าเครื่องมีหน้าที่ป้องกัน การรั่วของน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่นและสำหรับสายพานจะเป็นพลาสติกแข็ง<br />32. ฝาครอบวาล์ว ( valve cover )<br />เป็นชิ้นส่วนที่ทำมาจากอลูมิเนียมมีหน้าที่ป้องกันการรั่วของน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่น กระเดื่องวาล์ว<br />33. คาบูเรเตอร์ ( carburetor )<br />เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ผสมอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตราส่วนผสมที่พอเหมาะในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ส่วนมากคาบูเรเตอร์ทำมาจากตะกั่วผสมอลูมิเนียม อัตราส่วนผสมไอดีที่เหมาะสมอยู่ที่ 14.7:1 ตามทฤษฎี โดยภายใน คาบูเรเตอร์มีวงจรที่ทำงานทั้งหมด 6 วงจร<br />1. วงจรลูกลอยมีหน้าที่รักษาระดับน้ำมันในห้องลูกลอยให้อยู่ในระดับมาตรฐานในวงจรประกอบด้วยลูกลอย<br />ห้องลูกลอย เข็มลูกลอย<br />2. วงจรเดินเบามีหน้าที่จ่ายน้ำมันในขณะที่เครื่องยนต์รอบต่ำทำให้เครื่องยนต์เดินเบาได้อย่างสมบูรณ์<br />3. วงจรหลักเป็นวงจรที่ทำหน้าที่จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ในขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่ในอัตราส่วน<br />18-16 : 1 ถ้าความเร็วสูงกว่านี้วงจรกำลังและปั๊มเร่งจะทำหน้าที่แทน<br />4. วงจรกำลังจะทำงานต่อจากวงจรหลักจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตราส่วนผสมที่ 12-13 : 1 เป็นการเพิ่มปริมาณการ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น<br />5. วงจรปั๊มเร่งเป็นวงจรที่ผู้ขับรถยนต์เหยียบคันเร่งทันทีขณะรถยนต์วิ่งอยู่โดยจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 8 : 1<br />6. วงจรโช๊คทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตราส่วนที่หนาประมาณ 1 : 1 เมื่อเริ่มติดเครื่องยนต์หรือ เครื่องยนต์เย็นอยู่<br />34. จานจ่าย ( distributor )<br />ทำให้หน้าทองเปิด - ปิดตามจังหวะของเครื่องยนต์และเป็นตัวจ่ายไฟแรงสูงไปยังหัวเทียนสูบต่างๆ ตามองศาการ<br />จุดระเบิดในจานจ่ายประกอบด้วย หน้าทองขาว, คอนเด็นเซอร์ , ฝาครอบจานจ่าย ,หัวโรเตอร์,ชุดกลไกการจุดระเบิดล่วงหน้า<br />35. หัวเทียน ( spark plug )<br />ทำหน้าที่จุดประกายไฟในห้องเผาไหม้สำหรับเครื่องยนต์เบนซิล<br />36. หัวฉีด ( injection nozzle )<br />มีหน้าที่ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นฝอยละอองในเครื่องยนต์ดีเซล<br />37. ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง , ปั๊มแรงดันสูง<br />มีหน้าที่ สร้างแรงดันและส่งน้ำมันแรงดันสูงไปยังหัวฉีด โดยรับพลังงานการหมุน จากเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว<br />38. ประเก็น ( gasket )<br />ทำหน้าที่ป้องกันการรั่วหรือของน้ำมันตามชิ้นส่วนต่าง ๆเช่นประเก็นฝาสูบป้องกันการรั่วของแก๊สที่เกิดจาก<br />การเผาไหม้ตามการจุดระเบิดของเครื่องยนต์<br />39. หม้อน้ำ ( radiator )<br />เป็นตัวระบายความร้อนของเครื่องยนต์โดยมีน้ำไหลผ่านตามคีบของหม้อน้ำและใบพัดลมจะเป่าเอาความร้อนออก<br />จากคีบของหม้อน้ำ หม้อน้ำจะทำด้วยทองเหลืองหรือพลาสติกผสมไฟเบอร์<br />40. เทอโมสตัส ( thermostat )<br />เป็นตัวควบคุมอุณหมูมิของน้ำในเครื่องยนต์เมื่อน้ำร้อนมากเทอร์โมสตัสจะเปิดให้น้ำไหลผ่านและเมื่อน้ำเย็นลง จะปิดลงทำให้น้ำร้อนขึ้น<br />41. แหวนน้ำมัน ( oil control ring )<br />ทำหน้าที่ป้องกันปริมาณของน้ำมันที่ถูกฉีดขึ้นเพื่อหล่อลื่นผนังกระปอกสูบให้เกาะตามผิวของลูกสูบลดการเสียดสี<br />42. แหวนอัด ( compression ring )<br />ป้องกันการรั่วของกำลังอัดที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ อาจจะมีแหวนอัด 2 ตัวในสูบเดียวก็ได้ขึ้นอยู่ การออกแบบของบริษัท<br />43. ห้องเผาไหม้ ( combustion chamber )<br />เป็นส่วนที่เกิดการเผาไหม้ของเครื่องยนต์อยู่ในการบอกสูบโดยมีลูกสูบเป็นตัวสร้างกำลังอัด<br />44. อางนํ้ ามันเครื่อง ( Oil pan )<br />อางนํ้ ามันเครื่อง เปนชิ้นสวนที่ประกอบอยูดานลางของเสื้อสูบเปนหองเพลาขอเหวี่ยง (Crankcase) มีหน้าที่เป็น ที่เก็บนํ้ ามันเครื่องไวเพื่อใชในการหลอลื่น โดยมีปะเก็นเปนตัวปองการการรั่วระหวางเสื้อสูบกับอางนํ้ ามันเครื่องUnknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2665154879715598012.post-57472629610130415432007-10-05T08:14:00.000+07:002008-12-10T17:01:58.432+07:00ไก่ชนพื้นบ้าน<p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEihO-Ykf9wawgfkSygzy04pfhXetZWs3kdY7nkzMEydPzH97nXumbOETUHd8iZUZBJ8Lo5NTREIOiVlSanbSDdF15LQm0QBsYwOX9nI1dqOKN7jaU8oMwGKKrDIFYS1A1alIVwr_tkjrW8/s1600-h/images.jpg"></a><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEihO-Ykf9wawgfkSygzy04pfhXetZWs3kdY7nkzMEydPzH97nXumbOETUHd8iZUZBJ8Lo5NTREIOiVlSanbSDdF15LQm0QBsYwOX9nI1dqOKN7jaU8oMwGKKrDIFYS1A1alIVwr_tkjrW8/s1600-h/images.jpg"></a></p><br /><p align="left"></p><p>การเลี้ยงไก่ชนและไก่สวยงาม<br />( 1 ) แนวความคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงาน<br /> ในอดีตไก่ชนมีมาตั้งนาน ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวที่ปรากฎในสมัยประวัติศาสตร์หรือบุคคลที่สืบทอดกันมาเป็นที่บอกเล่าขานถึงการชนไก่และลักษณะไก่ที่สวยงามตามแต่โบราณ จนถึงปัจจุบันได้อนุรักษ์และได้พัฒนาการเลี้ยงสืบต่อไปนี้ คือ<br />ลักษณะของไก่อุดมทัศนีย์<br />1.1 สายพันธุ์ จะบ่งบอกสายเลือด และความแท้ของสายพันธุ์<br /> 1.2 หน้าตา จะบ่งบอกความเฉลียวฉลาด รู้จักแก้สถานะการ<br />หน้าไก่อุดมทัศนีย์สามารถแยกเป็นดังนี้<br />· หงอน หงอนหินเป็นที่นิยมมากที่สุดและรองคือหงอนกรด<br />· ปาก จมูก ปากต้องใหญ่ มีร่องน้ำตลอด งุ้มแบบปากนกแก้ว<br />· หู ต้องเล็กตุ้มหูสั้นจึงดี เป็นตัวบ่งบอกพันธุ์ธุกรรม<br />· คิ้ว - ตา เป็นตัวบ่งบอกสติปัญญา ตาเป็นสีเหลืองชัด หรือตาเป็นสีปลาหมอตาย หน้าไก่ที่ดีต้องเป็นหน้านกยูง หน้านกเหยี่ยว<br /><br />1.3 รูปร่าง จะบ่งบอกความเข้มแข็ง การได้เปรียบ<br /> รูปร่างสวย ลำตัวต้องจับกลม 2 ท่อน บานหัวบานท้าย ลำตัวกลมเหมือนไม้กระบอก หลังแป้นท้ายแบนยาวแบบกระดาน คอยาวแบบคองูเห่า กระดูกอกใหญ่ และยาว<br />1.4 แข้งเกร็ด จะบ่งบอกการตีที่เจ็บปวด ตีหัก ตีชักหรือตีสลบ<br /> แข้งงามคือ แข้งเรียวกลมแบบลำหวาย เกล็ดแข้งสวยงามเรียงเป็นระเบียบแบบแถวเดียว กำไลพันลำหรือสองแถวจระเข้ขบฟัน เกล็ดแข้ง เกล็ดนิ้ว สวยงามมีเกล็ดพิฆาต เกล็ดสร้อยสังวาลย์งามเรียงเป็นระเบียบ<br />1.5 สีสัน จะบ่งบอกสกุล อำนาจในท่าทางที่น่าเกรงขาม<br /> ขนไก่มีหลายอย่างด้วยกันคือ<br />· ขนสร้อย คือขนที่ขึ้นบริเวณคอมีสีตามสายพันธ์<br />· ขนผัด หรือขนรอง ขึ้นตามตัวบริเวณหน้าอก หน้าคอ หน้าท้อง ขา ใต้คาง มีสีตามสายพันธุ์<br />· ขนคาง ขึ้นบริเวณใต้คาง<br />· ขนปีก มีทั้งปีกในและปีกนอก<br />· ขนหางผัด ขนที่ขึ้นจากกระพุ้งหาง เรียงแถวสองข้าง<br />· ขนหางกระรวย ขนคู่กลาง เรียกว่าขนเอก ต่อไปเรียกว่าขนรับ<br />· ขนปุย หรือขนอุยคือขนละเอียดที่ขึ้นใต้ท้อง หรือที่โคนขา<br />หางไก่ <br />· หางพัด เรียงสองแถวข้างละ 11 เส้น<br />· หางระย้า หางที่คุมโคนขา<br />· หางรับ หางรองกระรวย<br />· หางกระรวย หางยาว แบ่งเป็น หางกระรอก หางพลูจีบ หางฝักดาบ หางนาคราช<br />1.6 กริยาชั้นเชิง จะบ่งบอกความเหนือชั้น และ เก่งกาจกว่าไก่อื่น ๆ<br />คือ การยืน การเดิน การวิ่ง เชิงชนงามคือ ยืนท่าตั้งตรง เดินหยิบโหย่ง เป็นไก่ท่าทางองอาจผึ่งผาย ยกหัว เชิงชนดี<br /><br />เชิงไก่ชนไทยตั้งแต่โบราณมี 8 เพลงท่าและ15 กระบวนยุทธ <br /> เช่นเพลงท่าคือ ลักษณะท่าทางการเข้าชนของไก่หรือ 8 เชิง กระบวนยุทธคือวิธีการต่อสู้ของไก่<br />· เชิงที่ 1 เชิงสาด เชิงที่ 5 เชิงบน<br />· เชิงที่ 2 เชิงเท้าบ่า เชิงที่ 6 เชิงล่อม้า<br />· เชิงที่ 3 เชิงลง เชิงที่ 7 เชิงตั้ง<br />· เชิงที่ 4 เชิงมัด เชิงที่ 8 เชิงลายชักลิ่ม<br /> ในจำนวน 8 เพลงท่า ยังแบ่งแยกได้อีก 15 กระบวนยุทธ คือ<br />เชิงเท้าบ่า แยกเป็น เท้าตีตัว เท้าจิกหลังกระปุกน้ำมัน<br />เชิงหน้าตรง แยกเป็น หน้ากระเพาะ หน้าคอ หน้าหงอน<br />เชิงมัด แยกเป็น มัดโคนปีก มัดปลายปีก ( 7 เส้น )<br />เชิงลง แยกเป็น ลงจิกขา ลงซุ่มซ่อน ลงลอดทะลุหลัง<br />เชิงบน แยกเป็น ขี่ ทับ กอด มัด ล็อก<br />เชิงลายชักลิ่ม แยกเป็น ยุบหัว<br /> ปัจจุบันมีการพัฒนาเชิงไก่ชั้นมากมาย เพิ่ม 8 เพลงท่า และ 25 กระบวนยุทธ <br />( 2 ) ผลงานส่วนที่คิดพัฒนาขึ้นมาใหม่ นอกจากแบบหรือตัวอย่างเดิม<br /> เดิมทีไก่ไทยยังไม่มีการจดลิขสิทธิ์และมีชนต่างประเทศเอาไก่ไทยไปจดลิขสิทธิ์ของประเทศตัวเอง จึงได้มีการจัดตั้งสมาคมไก่อุดมทัศนีย์ หรือ ศูนย์พัฒนาและอนุรักษ์ไก่พื้นเมืองไทย ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะอนุรักษ์ไก่สวยงามโดยมีกรมปศุสัตว์เป็นผู้รับรองไก่ไทยและเป็นหน่วยงานที่รับรองสายพันธุ์ไก่ไทยหรือไก่สวยงาม ในปัจจุบันได้รับรองสายพันธุ์ไก่ไว้ 7 สายพันธุ์คือ<br />1. ไก่พันธุ์เหลืองหางขาว<br />2. ไก่พันธุ์ประดู่หางดำ<br />3. ไก่พันธุ์เขียวหางดำ<br />4. ไก่พันธุ์เทาหางขาว<br />5. ไก่พันธุ์ทองแดงหางดำ<br />6. ไก่พันธุ์นกกรดหางดำ<br />7. ไก่พันธุ์นกแดงหางแดง<br /> และกำลังได้ทำการรับรองอีก 5 สายพันธุ์ ยังอยู่ในการหาลักษณะหรือกำหนดสายพันธุ์ที่แน่นอนของไก่ในประวัติศาสตร์ คือ<br />1. ไก่พันธุ์เขียวเหล่าหางขาว<br />2. ไก่พันธุ์โนรีหางขาว<br />3. ไก่พันธุ์ดอกหมากหางขาว<br />4. ไก่พันธุ์ลายหางขาว<br />5. ไก่พันธุ์ดำหางดำ<br /><br /> ลักษณะและสายพันธุ์ไก่ในประวัติศาสตร์<br /><br />ไก่พันธุ์เหลืองหางขาว<br /> ประวัติความเป็นมา ครั้งหนึ่งไก่ไทยชนกับไก่พม่า หน้าพระที่นั่ง เหลืองหางขาวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตีไก่เหลืองดอกหมากของพระมหาอุปราชคอหักล้มลงและแพ้ทำให้พระมหาอุปราชทรงอับอายกล่าวแก้ว่าไก่เฉลยตัวนี้เก่งจริง ๆ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงตอบโต้ด้วยความภูมิใจว่า ไก่เชลยตัวนี้อย่าว่าจะตีกันอย่างกีฬาในวังเหมือนวันนี้เลย ตีพนันเอาบ้านเอาเมืองกันก็ยังได้ จากพระราชดำรัสที่ทรงกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน และมั่นพระฤทัยในไก่เหลืองหางขาว จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า” ไก่พระนเรศวรมหาราช “<br /> แหล่งกำเนิด มีถิ่นกำเนิดแถวภาคเหนือของไทย บ้านหัวแท หรือบ้านกร่างจังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันมีแพร่หลายทั่วประเทศไทย<br /> ประเภท เป็นไก่ขนาดกลาง น้ำหนักโดยเฉลี่ย ตัวผู้ประมาณ 3.0 – 3.5 กิโลกรัม ตัวเมีย 2.0 – 3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่เหลืองหางขาว นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br /> 1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีดำสนิท ไม่มีสีแดงหรือสี<br /> เหลืองหรือขาวปน<br />2. ขนปีก ขนปีกท่อนในสีดำสนิท ขนปีกท่อนนอก ขนไซปีก หรือปลายปีกสีขาวแซม<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า โคนสร้อยสีดำ ปลายสร้อยสีเหลืองสีเดียวรับกันตลอด<br />4. ขนปิดหู สีเหลืองรับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีดำ ปลายจุดขาว หางกระลวยเอก สีขาวตลอดปลายเส้น<br />6. ขนหย่อมกระ จะมีขนหย่อมกระประแป้ง 5 แห่งเรียก เทพรักษา หรือพระเจ้าห้าพระองค์ที่หัวท้ายทอย1 หัวปีก2 ข้อขา2<br />7. ตา ตาสีขาวอมเหลือง เส้นตาสีแดง ตาปลาหมอตาย<br />8. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีขาวอมเหลืองแบบสีงาช้าง สีรับกันกับปากมีร่องน้ำ<br />9. เกล็ดแข้ง – นิ้ว แข้งคัดหรือลำหวาย นิ้วยาว ปลายเลียวแบบลำแทน เกล็ดเรียงเป็นระเบียบแบบจระเข้ขบฟัน มีเกล็ดแตก เหน็บ แซม มีเสือซ่อนเล็บ<br /> 10. กริยาท่าทาง องอาจผึ่งผาย ยืนตรง เล่นสร้อย ยกปีกกระพือปีกตลอดเวลา<br /><br /> ไก่เหลืองหางขาวมี6 ชนิดเรียงตามความนิยมในประเทศไทย<br />1. ไก่พันธุ์เหลืองใหญ่<br />2. ไก่พันธุ์เหลืองรวก<br />3. ไก่พันธุ์เหลืองดอกโสน<br />4. ไก่พันธุ์เหลืองเลา<br />5. ไก่พันธุ์เหลืองทับทิม<br />6. ไก่พันธุ์เหลืองธรรมดา<br /><br />ไก่ประดู่หางดำ<br /><br /> แหล่งกำเนิด เป็นไก่พันธุ์แท้แต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดแถบภาคกลางของไทย เช่น สุพรรณบุรี อยุธยา อ่างทอง พิจิตร สุโขทัย เป็นต้น<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.5-3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่ประดู่หางดำ นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีดำสนิท ไม่มีอื่นเจือปน<br />2. ขนปีก ขนปีกท่อนในสีดำสนิท ขนปีกท่อนนอก มีสีดำสนิทไม่มีขาวปน<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีเดียวรับกันทั้งตัว<br />4. ขนปิดหู สีประดู่รับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีดำ หางกะลวยสีดำสนิท ไม่มีขาว<br />6. ตา ตาสีประดู่เมล็ดมะขามตาสีไพลแก่ <br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีตามสายพันธุ์<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว แข้งคัดหรือลำหวาย นิ้วยาว ปลายเรียวแบบลำเทียน เกล็ดเรียงเป็นระเบียบแบบจระเข้ขบฟัน มีเกล็ดแตก เหน็บ แวม มีเสือซ่อนเล็บ<br />9. กริยาท่าทาง สง่างามพอกับไก่เหลืองหางขาว<br /><br />ไก่ประดู่หางดำ มี 3 ชนิดเรียงตามความนิยมในประเทศไทย<br /><br />1. ไก่พันธุ์ประดู่เมล็ดมะขาม<br />2. ไก่พันธุ์ประดู่แสมดำ<br />3. ไก่พันธุ์ประดู่แข้งเขียวตาลาย<br /><br /><br />ไก่เขียวหางดำ<br /><br /> แหล่งกำเนิด มีถิ่นกำเนิดแถบภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.0 -3.0 กิโลกรัม <br /> ไก่เขียวหางดำ นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีดำสนิท ไม่มีอื่นเจือปน<br />2. ขนปีก ขนปีกท่อนในสีดำสนิท ขนปีกท่อนนอก มีสีดำสนิทไม่มีขาวปน<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีเขียวรับกันทั้งตัว<br />4. ขนปิดหู สีเขียวรับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีดำ หางกระลวยสีดำสนิท ไม่มีขาว<br />6. ตา ตาสีเขียวอมดำ สีตาปลาหมอตายหรือสีดำตามสายพันธุ์ เช่นเขียวพาลี เขียวมรกต เขียวพระรถ ตาสีเขียวอมดำ<br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีตามสายพันธุ์ เช่นเขียวพาลี เขียวมรกต เขียวพระรถ ตาสีเขียวอมดำ<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว แข้งคัดหรือลำหวาย เกล็ดเรียงเป็นระเบียบ มีเกล็ดพิฆาตหลายเกล็ด<br />9. กริยาท่าทาง สง่างามและเชิงดี<br /><br />ไก่เขียวหางดำ มี 6 ชนิดเรียงตามความนิยม<br />1. ไก่พันธุ์เขียวพาลี<br />2. ไก่พันธุ์เขียวมรกต <br />3. ไก่พันธุ์เขียวไข่กา<br />4. ไก่พันธุ์เขียวนิล<br />5. ไก่พันธุ์เขียวแมงทับ<br />6. ไก่พันธุ์เขียวพระรถ<br /><br />ไก่เทาทองคำ<br /><br /> ประวัติความเป็นมา ไก่เทาเป็นไก่พื้นเมือง ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยังทรงเป็นเจ้าเมือง ได้ทรงทอดพระเนตรและทรงเป็นกรรมการชนไก่ระหว่างไก่เขียวพาชีของพระยาพิชัยดาบหักกับไก่โทนเถ้าของหลวงเมืองตาก หรือพระยาคลัง ไก่โทนเถ้าเป็นไก่เชิงดี ชนชนะมาหลายครั้ง จนเป็นที่เลื่องลือในเมืองตาก วันชนไก่ ไก่โทนเถ้าตีหักที่คิ้วไก่เขียวพาลี ไก่พาลีวิ่งหนีทำท่าจะแพ้ ไก่โทนเถ้าตีหลายครั้งอีกหลายที่ พอดีเวลาหมด ต่อมาทั้งคู่สู้แบบสูสีไก่โทนเถ้าได้เปรียบใหญ่กว่าไก่พาลี ทำให้ไก่พาลีวิ่งหนี ขณะไก่โทนเถ้าวิ่งไล่ได้ไม่ได้ระวัง ไก่พาลีสติได้ตีสวนกลับ และแทงเข้าที่รูหู ทำให้ไก่โทนเถ้าชัก ล้มลงและทำให้หลอดลมขาดถึงกับความตาย <br />แหล่งกำเนิด เป็นไก่พันธุ์แท้แต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดหลาย ๆ ภาคของไทย เป็นไก่ที่ไม่นิยมเลี้ยงเพราะเข้าใจว่าใจเสาะจึงไม่นิยมเลี้ยง<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.0-3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่เทาหางขาว นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีเทา ไม่มีอื่นเจือปน<br />2. ขนปีก ขนปีกท่อนในสีเทาสนิท ขนปีกท่อนนอกมีขาวแซมเล็กน้อย ในพวกเทาทองคำ เทาทองแดง มีสีเทาตลอดทั้งปีก<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีตามสายพันธุ์<br />4. ขนปิดหู สีเทารับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีเทา ขนหางกระลวยสีขาว สีเทาทองคำ และเทาเงินยวง<br />6. ตา ตาสีตามสายพันธุ์ คือเทาทองคำตาสีขาวอมเหลือง เทาทองแดงตาสีแดง เทาไหม้ตาสีไพร<br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีขาวอมเหลืองรับกัน<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว แข้งคัดหรือลำหวาย เกล็ดเรียงเป็นระเบียบ มีเกล็ดพิฆาตหลายเกล็ด<br />9. กริยาท่าทาง เป็นไก่เชิงดีสง่างามและว่องไว<br /><br />ไก่เทาหางขาว มี 6 ชนิดเรียงตามความนิยม<br /><br />1. ไก่เทาทองคำ<br />2. ไก่เทาทองแดง<br />3. ไก่เทาสวาด<br />4. ไก่เทาหม้อ<br />5. ไก่เทาขี้ควาย<br />6. ไก่เทาดำ<br /><br />ไก่ทองแดงหางดำ<br /><br /> สายพันธุ์ เป็นไก่พันธุ์แท้แต่โบราณ ทราบได้สมัยอยุธยา ตอนฉลองกรุงหงสาวดีให้มีการจัดชนไก่ หน้าพระที่นั่งเจ้าบุเรงนอง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งยังทรงพำนักอยู่ที่กรุงหงสาวดี ได้รับสั่งให้สมเด็จพระน้องยาเธอ พระเอกาทศรถนำไก่ไทยไปร่วมชนในงานฉลองและได้นำไก่ทองแดงหางดำได้ไปสร้างชื่อเสียงเอาชนะไก่พม่าอย่างง่ายดาย <br /> แหล่งกำเนิด ไก่ทองแดงหางดำ มีแหล่งกำเนิดอยู่ทั่ว ๆไป เป็นไก่ดังในอดีตจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี อยุธยา พิจิตร เป็นต้น<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.5-3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่ทองแดงหางดำ นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีแดงขลิบดำ<br />2. ขนปีก ขนปีกท่อนในสีแดง ขนปีกท่อนนอกสีดำ<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีแดง<br />4. ขนปิดหู สีแดงรับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดปลายมนกลม สีดำยาวไม่ต่ำกว่า 1 คืบ<br />6. ตา ตาสีแดง<br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดงรับกัน<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว แข้งคัดหรือลำหวาย เกล็ดเรียงเป็นระเบียบ มีเกล็ดพิฆาตหลายเกล็ด<br />9. กริยาท่าทาง เป็นไก่เชิงดีสง่างามและว่องไว<br /><br />ไก่ทองแดงหางดำ มี 4 ชนิดเรียงตามความนิยม<br /><br />1. ทองแดงหางแดง<br />2. ทองแดงตะเภาทอง<br />3. ทองแดงแข้งเขียวตาลาย<br />4. ทองแดงอ่อนหรือสีปูนแห้ง<br /><br />ไก่นกกรดหางดำ<br /><br /> แหล่งกำเนิด เป็นไก่พันธุ์แท้แต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดแถบทั่ว ๆไป ไกดังจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี ราชบุรี อยุธยา อ่างทอง พิจิตร สุโขทัย นครปฐม เป็นต้น<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.5-3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่นกกรดหางดำ นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ก้น สีดำ<br />2. ขนปีก ขนสีดำ ขนปีกท่อนนอกสีน้ำตาลอมแดงคล้ายสีเปลือกอกแมลงสาบ<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีแดง<br />4. ขนปิดหู สีน้ำตาลอมแดงสีเดียวกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีเทา ขนหางกระลวยสีขาว สีตามสายพันธุ์ <br />6. ตา ตาสีเหลืองหรือสีแดง<br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดงสีรับกัน<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว สีเดียวกับสีปากแข้งคัดหรือลำหวาย เกล็ดเรียงเป็นระเบียบ มีเกล็ดพิฆาตหลายเกล็ด<br />9. กริยาท่าทาง เป็นไก่เชิงดีสง่างาม<br /><br />ไก่นกกรดหางดำ มี 4 ชนิดเรียงตามความนิยม<br /><br />1. ไก่นกกรดแดง<br />2. ไก่นกกรดดำ<br />3. ไก่นกกรดเหลือง<br />4. ไก่นกกรดนาค<br /> <br />ไก่นกแดงหางแดง<br /><br /> สายพันธุ์ พันธุ์แท้แต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดทั่ว ๆไปแถบภาคใต้ และภาคเหนือของไทย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังครั้งสมัยอยุธยาตอนกลาง เป็นไก่ของขุนฤทธิ์ปูพ่าย หรือ พระยาศรีไสณรงค์ เจ้าเมืองกาญจนบุรี ทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามประวัติชนมา 69 ครั้งไม่เคยแพ้ใคร<br /> แหล่งกำเนิด มีแหล่งกำเนิดทั่วไป จะอยู่แถวจังหวัด กาญจนบุรี พิษณุโลก อยุธยา พิจิตร เป็นต้น<br /> ประเภท มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.0-3.5 กิโลกรัม ตัวเมียประมาณ 2.5-3.0 กิโลกรัม<br /> ไก่นกแดงหางแดง นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตา สีสัน เกล็ดแข้ง กริยาท่าทางงดงามตามอุดมทัศนีย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีลักษณะเด่นประจำสายพันธุ์ที่แท้จริงเด่นชัดคือ<br />1. ขนพื้นตัว หน้าคอ หน้าอก หน้าท้อง ใต้ปีก สีแดงตามเฉดสี<br />2. ขนปีก สีแดง ทั้งปีก<br />3. ขนสร้อย สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังระย้า สีแดง<br />4. ขนปิดหู สีแดงรับกับสีสร้อย<br />5. ขนหาง หางพัดสีเทา ขนหางแดง ไม่มีสีอื่นเจือปน<br />6. ตา ตาสีแดง<br />7. ปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองอมแดงรับกัน<br />8. เกล็ดแข้ง – นิ้ว สีเหลืองอมแดงรับกับปาก แข้งคัดหรือลำหวาย เกล็ดเรียงเป็นระเบียบ มีเกล็ดพิฆาตหลายเกล็ด<br />9. กริยาท่าทาง เป็นไก่เชิงดีสง่างามและว่องไว<br /><br />ไก่นกแดงหางแดง มี 4 ชนิดเรียงตามความนิยม<br /><br />1. แดงชาด<br />2. แดงทับทิม<br />3. แดงเพลิง<br />4. แดงนาก<br /><br /> ( 3 ) ขั้นตอนหรือการผลิตผลงาน<br />· การคัดเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์<br /> ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ที่จะต้องหาพ่อพันธุ์ที่ดีมีประสบการณ์หรือมีประวัติการชนชนะมามาก ชนะการประกวด หรือลักษณะได้สัดส่วนตามที่กล่าวมา สีสันสวยงามชัดเจนตามสายพันธุ์ อายุของพ่อพันธ์ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปีและไม่เกิน 3 ปี และแม่พันธุ์จะต้องเป็นสายพันธุ์ที่แท้มีเหล่ากอที่เชื่อถือได้ อายุของแม่พันธุ์ควรไม่ต่ำกว่า 8 เดือนหรือไม่เกิน 3 ปี<br /><br />· การเตรียมก่อนการผสมไก่<br /> เมื่อคัดเลือกแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ที่สมบูรณ์มากำจัด ไร เหา พยาธิ ให้หมดสิ้น และนำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์มาทำการบำรุงใว้ในกรงที่มีที่นอนกันยุงและแมลงได้ ไม่ถูกลมและฝนให้อาหารประจำ เช่น ข้าวเปลือก อาหารเสริม <br /><br />· วิธีการผสมพันธุ์<br /> แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ หน้าจะแดง ขนเป็นมัน ส่งเสียงร้อง ก๊าก ๆ เวลาเอามือแตะหลังมันจะหมอบทันที เมื่อแม่พันธุ์ใกล้จะไข่ประมาณ 2 วันก็จับตัวพ่อพันธุ์ให้เข้าผสมในการผสมจะผสมในช่วงเช้าหรือเย็นในการผสมจะใช้วิธีการจับให้ผสมหรือปล่อยในกรงให้ผสมเอง การผสมตัวผู้ 1 ต่อตัวเมีย 4 ตัว<br /><br />· วิธีการฟักไข่ไก่<br /> หลังจากที่ผสมพันธุ์แล้วประมาณ4–5วันตัวเมียจะเริ่มไข่ เมื่อไข่จะต้องจดชื่อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์และวันที่ไข่ออกไว้ไข่ที่ออกมานั้นถ้าเป็น 10ฟอง 2ฟองแรกจะไม่เอาไปฟักเพราะว่าอาจจะเป็นเชื้อของตัวอื่นที่เราไม่ต้องการ และ 2 ใบสุดท้ายก็จะไม่เอาเพราะใบสุดท้ายอาจจะทำให้เชื้ออ่อน <br /> ในการฟักมี 2 วิธีคือ<br />1. แม่ไก่ฟักเองแบบนี้จะไม่นิยมกันเพราะจะทำให้แม่ไก่โทรมเร็ว<br />2. ใช้ตู้อบหรือฟักแบบนี้จะทำให้ไข่ที่ฟักเป็นตัวประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์<br /><br />· วิธีการเลี้ยงอนุบาล<br /> ลูกไก่ที่เกิดมาใน 2 วันแรกไม่ต้องให้อาหารหลังจากนั้น 3 วันนำลูกไก่ให้อยู่ในกรงและให้อาหารลูกไก่ในเวลากลางคืนให้แสงไฟ 60 แรงเทียน เพื่อที่จะลูกไก่อบอุ่น<br /><br />· การให้อาหารลูกไก่<br />สัปดาห์แรก ให้อาหารไก่อ่อนของซีพีหรือแชมป์ น้ำที่สะอาดผสมกับเกลือแร่และยาปฏิชีวนะ ทำความสะอาดกรงทุกวัน<br /> สัปดาห์ที่ 2-3-4 ให้อาหารไก่อ่อนต่อกรวดทรายเปลือกหอย หญ้าสับและให้<br /> อาหารเสริม<br /><br /> สัปดาห์ 5-6-7 ให้อาหารเหมือนสัปดาห์ที่ 2-4 อาหารเสริมไก่ระยะที่ 2 เวลากลางวันให้อยู่ในกรงที่ใหญ่ขึ้น ให้ไก่วิ่งเล่นออกกำลังกาย<br /><br /> อายุ 2 เดือน ให้อาหารข้าวเปลือก อาหารไก่รุ่น ลูกไก่เริ่มจะจิกกันให้ใช้กรรไกรตัดเล็บตัดจงอยปากบนให้เสมอปากล่าง ปล่อยไก่รวมกันในกรงใหญ่ ให้ไก่ได้เดินและวิ่ง คุ้ยหาอาหารและเขี่ยดินเล่นออกกำลังกาย<br /><br /> เทคนิคการแต่งไก่สวยงามประกวด<br /><br />1. ได้พ่อพันธ์ไก่ที่ต้องการแล้ว นำมาบำรุงอาหาร อาหารหลักคือข้าวเปลือก อาหารเสริมคือ ถั่วลิสงเพราะมีโปรตีนมากจะบำรุงขนไก่ หญ้าขนหั่นให้กิน มะเขือเทศ แตงกวา<br />2. ใน 1 เดือนอาบน้ำ1 ครั้ง นำมาตากแดด ลูบน้ำหมาด ๆ ทุกวัน ดูแลไก่อย่างตลอด ถ้าไม่สบายต้องหายาให้กิน ยาใช้ชนิดเดียวกับไก่ชน<br />3. ช่วงตอนเย็นให้ไก่ออกกำลังกาย<br />4. ก่อนทำการแข่งขัน 2 วัน จับอาบน้ำแต่งตัว ตัดส่วนที่เกินออกคือส่วนที่เราไม่ต้องการเช่นขนสีที่ผิดสายพันธุ์<br /><br />เทคนิคการแต่งไก่ชน<br /><br />ตารางประจำวันไก่ที่จะชน (การเลี้ยงจะแตกต่างกันกับไก่สวยงาม )<br />05.30 นโยนเบาะ<br />06.00 น.วิ่งสุ่ม<br />07.00 น.ล่อเป้าหรือซ้อมลงนวม<br />08.00 น.อาบน้ำยา เช็ดตัว ผึ่งแดด<br />09.00 น.กินอาหาร ยาบำรุง พักผ่อน</p><p>13.00 น.วิ่งสุ่ม<br />14.00 น.อาบน้ำเปล่า เช็ดตัว ตากแดด<br />15.00 นนวดตัว กล้ามเนื้อ<br />16.00 น.ปล่อยเดินอิสระ<br />17.00 น.กินอาหาร กินยาบำรุง<br /><br /> ( 4 ) วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้<br /> ในพื้นที่ฟาร์มสิงหรัตน์ มีพื้นที่ 15 ไร่ สวนปลูกมะม่วง 7 ไร่ บ้านและสาธารณูปโภคโภค 1 ไร่ บ่อน้ำ 2 ไร่ พื้นที่เลี้ยงไก่ 5 ไร่ <br /> วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเลี้ยงไก่ <br />· ตัวไก่ พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์<br />· โรงเรือน<br />· อาหาร<br />· ยารักษาโรค<br /><br /> ( 5 ) การเผยแพร่ผลงาน การนำผลงานออกเผยแพร่ต่อสาธารณะชน<br /> แนวทาง ได้มีกลุ่มนักอนุรักษ์ของทางต่างประเทศ เห็นว่าการชนไก่เป็นการทรมานสัตว์เป็นการทารุน และทางสมาคมจึงจะสร้างภาพพจน์ที่ดีคือเปลี่ยนมาเป็นการเลี้ยงไก่สวยงามและในการชนไก่เปลี่ยนเป็นการซ้อมหรือทดสอบคัดไก่ที่ดีมาเป็นพ่อพันธุ์ที่ดีเพื่อที่จะอนุรักษ์ ไว้แก่ชนรุ่นหลัง<br /> การนำไปเผยแพร่ ทางฟาร์มสิงหรัตน์ได้พัฒนาไก่สายพันธุ์ที่ดีและได้จัดส่งเข้าประกวดทุกที่ที่มีการประกวดไก่สวยงามและชนไก่<br /><br />( 6 ) การถ่ายทอดผลงานให้ผู้อื่น<br /> ในทางฟาร์มได้จัดแจกจ่ายและจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปที่สนใจการเลี้ยงไก่ไปมากและทางฟาร์มกำลังจะขยายสายพันธุ์ไก่และอนุรักษ์สายพันธุ์ต่าง ๆ<br /> สามารถติดต่อได้ที่ สิงหรัตน์ฟาร์มไก่ชน 52 หมู่ ที่ 10 หมู่บ้านหนองนกกระเรียน ต. รางบัว อ. จอมบึง จ. ราชบุรี โทร 01-9336283 , 01-6899515 , 01 –3093352 เจ้าของคือ คุณรัชนี คุณเอกเดช สิงหรัตน์ ผู้ดูแลฟาร์ม อบต. สมศักดิ์ แป้นชาติ ( ไพ )<br /><br /><br />(7 ) คุณค่า ประโยชน์ และความสำคัญของผลงาน<br />1. ด้านจิตใจเป็นการผ่อนคลายอารมณ์<br />2. พัฒนาและอนุรักษ์สายพันธ์ไก่สวยงาม<br /> การอนุรักษ์ไก่ในประเทศไทยจนมีไก่ประจำจังหวัด ได้แก่<br />1. จ. พิษณุโลก อนุรักษ์ไก่รุ่นเหลืองหางขาว<br />2. จ. สุโขทัย อนุรักษ์ไก่รุ่นประดู่หางดำ</p><p> 3. จ. อุตรดิตถ์ อนุรักษ์ไก่รุ่นเขียวพาลีหางดำ<br /> 4. จ. กำแพงเพชร อนุรักษ์ไก่รุ่นเขียวเล่าหางขาว<br /> 5. จ. ลำปาง อนุรักษ์ไก่รุ่นไก่ชี ( ไก่ขาว )<br /> 6. จ. นครราชสีมา อนุรักษ์ไก่รุ่นเทาสวาดหางขาว<br /> 7. จ. กาญจนบุรี อนุรักษ์ไก่รุ่นนกแดงหางแดง<br /></p><p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEihO-Ykf9wawgfkSygzy04pfhXetZWs3kdY7nkzMEydPzH97nXumbOETUHd8iZUZBJ8Lo5NTREIOiVlSanbSDdF15LQm0QBsYwOX9nI1dqOKN7jaU8oMwGKKrDIFYS1A1alIVwr_tkjrW8/s1600-h/images.jpg"></a></p><br /><p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEihO-Ykf9wawgfkSygzy04pfhXetZWs3kdY7nkzMEydPzH97nXumbOETUHd8iZUZBJ8Lo5NTREIOiVlSanbSDdF15LQm0QBsYwOX9nI1dqOKN7jaU8oMwGKKrDIFYS1A1alIVwr_tkjrW8/s1600-h/images.jpg"></a></p><br /><p align="left"></p><br /><p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEihO-Ykf9wawgfkSygzy04pfhXetZWs3kdY7nkzMEydPzH97nXumbOETUHd8iZUZBJ8Lo5NTREIOiVlSanbSDdF15LQm0QBsYwOX9nI1dqOKN7jaU8oMwGKKrDIFYS1A1alIVwr_tkjrW8/s1600-h/images.jpg"></a></p>Unknownnoreply@blogger.com0